06 พฤษภาคม 2556

เส้นทางการบ่มเพาะความชื่นชมยินดี


ท่านต้องการมีความชื่นชมยินดีมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่?  

ท่านสามารถที่จะบ่มเพาะเมล็ดแห่งความชื่นชมยินดีให้มันงอก  แทงยอด  เติบโตขึ้นในชีวิตของท่าน!  

เมล็ดแห่งความชื่นชมยินดีจะแตกตัวและหยั่งราก  แล้วแทงยอดใบอ่อนขึ้นในชีวิตอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมแห่งจิตวิญญาณของเราแต่ละคน   และมุมมองของเราที่มีต่อแต่ละสถานการณ์แวดล้อมที่เกิดขึ้น  ด้วยสายตามุมมองจากเบื้องบนในจิตวิญญาณของเราที่ว่า   ความชื่นชมยินดีในชีวิตจิตวิญญาณของเราบังเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของเรา  และที่สำคัญคือ  เรามิใช่มองด้วยมุมมองแห่งสายตาในชีวิตของเราตามเงื่อนไข ปัจจัยของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น   และตามกระแสนิยมแห่งโลกนี้    เส้นทางบ่มเพาะความชื่นชมยินดีในชีวิตของเรามีดังนี้ 

1. ทบทวนเสียงภายในของเราที่มีต่อพระเจ้าว่า  ทำไมเราถึงไว้วางใจในพระองค์

อย่างเช่นกษัตริย์ดาวิดที่ทบทวนถึงพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำในชีวิตของตน   สำนึกและขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทรงมีพระคุณในชีวิตของตน   ระลึกถึงการทรงช่วยกู้ของพระเจ้าในสถานการณ์ชีวิตต่างๆ ที่ผ่านมา   และชื่นชมยินดีในน้ำพระทัยของพระเจ้า   ซึ่งเราสามารถดูตัวอย่างและอ่านได้จาก สดุดี 103 

ดาวิด ถวายสาธุการแด่พระเจ้า และ เตือนตนเองให้ระลึกและจดจำถึง
“พระราชกิจอันมีพระคุณของพระเจ้า” (ข้อ 1-2)
“ทรงอภัยความชั่ว” ทั้งสิ้นของเรา (3)
“ทรงรักษาโรคทั้งสิ้น” ของตน (3)
“ทรงไถ่ชีวิต...จากหลุมมรณะ” (4)
“ทรงสวมความรักมั่นคงและพระกรุณา” แก่เรา(4)
“ทรงให้เราอิ่มด้วยของดีตลอดชีวิตของเรา”(5)
“ทรงกระทำการชอบธรรมและการยุติธรรมแก่คนที่ถูกบีบบังคับ”(6)
“ทรงสำแดงพระมรรคา” ของพระองค์แก่เรา(7)
“ทรงพระกรุณาและมีคุณ กริ้วช้า อุดมด้วยความรักมั่นคง” (8)
“ไม่ทรงตำหนิเสมอ” (9)
“มิได้ทรงทำแก่เราตามบาป-ชั่วของเรา” (10)
พระองค์มีความรักมั่นคงต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์ (11)
ทรงปลดการละเมิดของเรา (12)
พระองค์ทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์ (13)
ความจำกัดในชีวิตมนุษย์เราคู่ควรกับความรักมั่นคงอันนิรันดร์ของพระเจ้า(14-19)

ด้วยเหตุนี้  กษัตริย์ดาวิดจึงเรียกร้องมิใช่ตนเองเท่านั้น หรือ เพียงอิสราเอลเท่านั้น   แต่ทรงเรียกร้องให้สรรพสิ่งทั้งสิ้นที่เป็นพระราชกิจของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์   แล้วท่านลงท้ายด้วยการกล่าวกับจิตใจของตนเองว่า  “จิตใจของข้าเอ๋ย  จงถวายสาธุการแด่พระยาเวห์”(22)

2. มุ่งมั่นจาริกไป “บนเส้นทางแห่งความชื่นชมยินดี”

ให้เราบันทึกถึงพระราชกิจ “อันมีพระคุณทั้งสิ้น” และ “ความสัตย์ซื่อ” และ “ความรักมั่นคง” ของพระเจ้าที่ทรงกระทำในชีวิตประจำวันของเรา   อย่างเช่นดาวิดได้บันทึกประสบการณ์ชีวิตของตนลงในบทเพลงสดุดีหลายบท   และถ้าเป็นไปได้แล้ว  ให้สะสมภาพของเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงกระทำให้ท่านเกิดความชื่นชมยินดีในชีวิต   พร้อมกับเขียนบทภาวนาอธิษฐานของท่านในเหตุการณ์นั้นๆ   และบันทึกถึงบุคคลต่างๆ ที่พระเจ้าทรงให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ชีวิตช่วงนั้นๆ ของท่าน   จากนั้น เรียบเรียงเหตุการณ์  บุคคล  และสิ่งที่นำมาซึ่งความชื่นชมยินดีที่ท่านได้รับในเหตุการณ์นั้นๆ    เมื่อภายหลังท่านกลับมาเปิดอ่านสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นหนุนเสริมให้ท่านเกิดคามชื่นชมยินดีในพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำในชีวิตของท่าน

3. จงอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีความชื่นชมยินดี

ความชื่นชมยินดีเป็นเหมือนคลื่นทะเลที่เคลื่อนกระทบกันออกไปสู่วงกว้าง   มุ่งที่จะเสริมสร้างสัมพันธ์กับมิตรสหาย หรือ ผู้คนที่ตนพบและเกี่ยวข้องที่เขาแสดงออกถึงความไว้วางใจอย่างมั่นคงในพระเจ้า   แล้วทูลขอต่อพระเจ้า ที่ท่านและคนรอบข้างกลุ่มดังกล่าวจะมีความชื่นชมยินดีในพระคริสต์ และ เพิ่มพูนความชื่นชมยินดีแก่กันและกันให้มากยิ่งขึ้น

4. เผชิญหน้ากับความท้าทาย และ ยากลำบากด้วยความเชื่อมั่นในพระประสงค์อันดีของพระเจ้า

พระเจ้ามิได้มองข้ามและละทิ้งสถานการณ์แวดล้อมที่ทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา   แต่พระองค์ทรงใช้สถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านั้นในการพัฒนาพระลักษณะของพระองค์ให้เกิดขึ้นและเด่นชัดยิ่งๆ ขึ้นในชีวิตของเรา และ กลายเป็นบุคลิกของเราในชีวิต

“โดยทางพระคริสต์เราจึงเข้ามายืนอยู่ในร่มพระคุณ...
และเราชื่นชมยินดีในความหวังว่า  จะได้มีส่วนในพระสิริของพระองค์
ยิ่งกว่านั้น  เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย
เพราะเรารู้ว่า ความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน
...ความทรหดอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้...” (ข้อ 2-4 ฉบับมาตรฐาน)

พระธรรมยากอบ บทที่ 1 กล่าวไว้ว่า  “...เมื่อพวกท่านพบกับการทดลองใจต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง   เพราะพวกท่านรู้ว่า การทดสอบความเชื่อของท่านนั้นทำให้เกิดความทรหดอดทน   และจงให้ความทรหดอดทนนั้นมีผลอย่างสมบูรณ์   เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่สมบูรณ์และดีพร้อมโดยไม่ขาดสิ่งใดเลย” (ข้อ 2-4)

ความชื่นชมยินดีเป็นกระบวนการ และสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ทุกข์ยาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของคนส่วนใหญ่   แต่เราจะเกิดความชื่นชมยินดีเมื่อเราเห็นบทเรียนจากความทุกข์ยากลำบากที่เราเผชิญว่าแท้จริงแล้วคือสิ่งดีมีค่ายิ่งที่พระเจ้าทรงประทานแก่เรา  เพราะพระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกข์ยากลำบากนั้น

5. มีจิตใจที่สรรเสริญ ยกย่อง และ ขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ

ทุกวันให้ใคร่ครวญพิจารณาว่า  พระเจ้าทรงดูแลเอาใจใส่ในสิ่งจำเป็นในชีวิตของท่านหรือไม่?  ถ้ามีจงขอบพระคุณ และ สรรเสริญพระองค์   ท่านได้เห็นหรือสัมผัสถึงพระราชกิจแห่งพระคุณของพระองค์ในชีวิตของท่านหรือไม่?   ถ้ามี  จงขอบพระคุณพระเจ้า   จงให้ชีวิตของท่านมีความชื่นชมยินดีด้วยความสำนึกในพระคุณของพระเจ้าเปี่ยมล้นจากจิตใจในชีวิตของท่าน   ก่อนที่ท่านจะหลับนอนในค่ำคืน  ให้ท่านเขียนถึงพระพร 3-5 ประการที่ท่านได้รับในวันนี้ ลงในสมุดบันทึกประจำวันของท่าน   จงกระทำเช่นนี้จนติดเป็นนิสัย   แล้วเฝ้าสังเกตดูท่าทีชีวิตที่ชื่นชมยินดีของท่านที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น

6. ให้ความคิดจิตใจและจิตวิญญาณของท่านเปี่ยมล้นด้วยบทเพลง

ให้ฟัง หรือ ร้องเพลง หรือ ภาวนาบทเพลงในจิตใจ   เพื่อความคิดจิตใจของท่านจะเข้าใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า

7. มองให้ยาวและไกล

นักวิเคราะห์หุ้นมักแนะนำลูกค้าหุ้นให้มองไปในระยะไกล  อย่ากังวลกับการขึ้นลงของหุ้นในแต่ละวัน  ชีวิตในทุกวันนี้สร้างการท้าทายต่อเราอย่างไม่น่าเชื่อใช่ไหม?   สถานการณ์ชีวิตตอนนี้ของท่านลุ่มๆ ดอนๆ หรือ?  หรือชีวิตของท่านในวันนี้กำลังมีความชื่นชมที่พุ่งสูงขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่อง?   อย่างไรก็ตามให้ท่านมุ่งมองไปให้ไกล   มองด้วยสายตาที่ยาวไกล   ระลึกเสมอว่าพระเจ้ายังทรงอยู่เคียงข้างท่านในทุกวัน   และพระองค์ยังทรงกระทำให้พระลักษณะของพระองค์เกิดขึ้นและสำเร็จในชีวิตของท่าน  โปรดตระหนักเสมอทุกเวลาว่า   ความชื่นชมยินดีในชีวิตบังเกิดจากการที่ท่านมองทุกสถานการณ์ชีวิตด้วยมุมมองนิรันดร์จากเบื้องบน   จงไว้วางใจเถิดว่าพระเจ้าทรงควบคุมในทุกรายละเอียดความเป็นไปในชีวิตของท่าน  “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า  คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (โรม 8:28)   พระองค์ทรงสนใจและสดับฟังทุกเสียงทูลขอจากจิตใจของท่าน “ข้าพเจ้ารักพระยาเวห์ เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า” (สดุดี 116:1และความชื่นบานของเราในพระยาเวห์เป็นกำลังของเรา (เนหะมีย์ 8:10)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น