26 กรกฎาคม 2556

สิบลักษณะศิษยาภิบาลที่ปนเปื้อน?

เมื่อไม่นานมานี้   ผมมีโอกาสสนทนาพูดคุยกับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานเป็นศิษยาภิบาล   เพื่อนศิษยาภิบาลท่านหนึ่งท้าทายผมขึ้นว่า   เท่าที่เดินทางพบปะกับผู้คนทั้งในคริสตจักรและในชุมชน   ขอช่วยประมวลสรุปออกมาได้ไหมว่า   ผู้นำผู้อภิบาลที่พบมาถ้าจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ   พอจะแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง?   ผมน้อมรับคำท้าทายนั้นด้วยความสนใจ   พอดีได้ไปอ่านบทความของ David Murray  อาจารย์สอนพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมในพระคริสต์ธรรม Puritan Reformed Theological Seminary  ดูน่าสนใจ  เลยนำมาเรียบเรียงเขียนใหม่แบ่งปันกันอ่านเล่นๆ ไปพลางๆ ก่อนนะครับ

ศบ. เฉยเมย

ท่านเป็นศิษยาภิบาลและผู้นำไม่ขยับเขยื่อนก้าวไปไหนเลย   ถ้าเป็นตัวสนุ้กมีแต่รอให้ผู้เล่นแทงลูกอื่นให้มากระทบตน หรือ แทงตนให้ไปกระทบคนอื่น   ถ้าสถานการณ์ในคริสตจักรราบเรียบไร้คลื่นลมเป็นสิ่งที่ท่านศิษยาภิบาลประเภทนี้ปรารถนามากที่สุด   และถ้าเขาสามารถรักษาสถานภาพจำนวนสมาชิกในคริสตจักรให้ลดน้อยลงช้าที่สุดเป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก

ศบ. เผด็จการ

ถ้า ศบ.เฉยเมยเป็นเหมือนลูกสนุ้ก   ศบ. เผด็จการก็เป็นไม้คิวสนุ้ก   เขาเป็นศิษยาภิบาลที่ไม่หลบหลีกความยากลำบากที่มีรอบตัวเขา   เขาผลักคนอื่นให้ออกไปจากเส้นทางของตนเอง   และผลักดันแผนงานของตนเองออกไปอย่างรุกรานก้าวร้าวโดยไม่คิดกังวลหรือห่วงว่ามันจะกระทบต่อคนอื่นอย่างไร   บางครั้งเขาผลักดันแผนงานของเขาอย่างหนักยอมแม้กระทั่งจะจัดการทุกรูปแบบเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่ตนวางไว้

ศบ. วิกฤติ

ศิษยาภิบาลประเภทนี้มิใช่ ศบ.แบบเฉยเมย หรือ เผด็จการก้าวร้าว   เขาเป็นศิษยาภิบาลที่ไม่หลีกลี้หนีความยากลำบากอย่างกับศิษยาภิบาลเฉยเมย   แต่ก็ไม่ใช่ศิษยาภิบาลที่สร้างความยากลำบากแก่ผู้อื่นอย่างศิษยาภิบาลเผด็จการ   เขายอมรับความยากลำบากเมื่อมันเกิดขึ้น   แต่เวลาที่ไม่มีความทุกข์ยากลำบากเขาก็เป็นศิษยาภิบาลที่สบายๆ   แต่ถ้าความยากลำบากเกิดขึ้นเมื่อใดเขาก็สู้ไม่ถอย   โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานจะขับเคลื่อนเมื่อยามวิกฤติ และ เมื่อทุกคนมุ่งมองสนใจมาที่เขาเมื่อมีวิกฤติ   เขาเป็นผู้นำที่จะนำผู้คน “ให้ข้ามทะเลแดง”  แต่เขาเป็นผู้นำที่ไม่ค่อยสันทัดกับการนำผู้คนในถิ่นทุรกันดารสักเท่าใดนัก

ศบ. ไม่แน่ไม่นอน

บางครั้งเขาเป็นศิยาภิบาลที่กวาดลูกสนุ้กจนหมดโต๊ะ   แต่บางครั้งเขาไม่สามารถที่จะกระแทกลูกสนุ้กลงหลุมได้แม้แต่ลูกเดียว   สมาชิกไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอาทิตย์นี้ท่านศิษยาภิบาลจะจัดการอย่างไร   เขาเป็นศิษยาภิบาลแบบขึ้นๆ ลงๆ   บางครั้งคำเทศน์ของเขาทะยานสูงสุดยอด   แต่บางครั้งเป็นคนเทศน์ที่จมดิ่งยิ่งกว่าน่าเบื่อหน่าย   วันนี้อาจจะมีความสุขและเป็นคนที่เสริมสร้างกำลังใจแก่คนอื่น   มาอีกวันหนึ่งกลับกลายเป็นศิษยาภิบาลที่แย่เลวร้าย  ตกต่ำ ห่อเหี่ยว  แย่อะไรปานนั้น!

ศบ. กลัวลาน

ใครๆ ก็มีความกลัวกันทั้งนั้น   แต่ศิษยาภิบาลแบบนี้ชีวิตของเขาถูกครอบงำด้วยความกลัว  กลัวจนเห็นได้ชัด   ไม่สามารถที่จะเอาชนะความกลัวได้เลย   การตัดสินใจแต่ละครั้งก็เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานความกลัว   สมาชิกรู้ถึงความกลัวของศิษยาภิบาลของเขา   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคำเทศนาของศิษยาภิบาล   สมาชิกส่วนใหญ่เริ่มไม่ติดตามและทำตามศิษยาภิบาล   แต่มีสมาชิกบางคนที่สบโอกาสเริ่มใช้การสร้างความกลัวแก่ตัว ศิษยาภิบาลเพื่อสร้างประโยชน์แก่ตนหรือใช้ความกลัวกระตุ้นศิษยาภิบาลให้ทำในสิ่งที่ตนคาดหวัง

ศบ. มองร้าย

เมื่อสมาชิกคิดถึงศิษยาภิบาลประเภทนี้   ทันทีภาพของศิษยาภิบาลก็ผุดขึ้นในสมองในจินตนาการของเรา   เป็นภาพของคนที่หน้ามุ่ย เศร้า ซึม  สิ้นหวัง และท่าทางเก็บกด ดูเครียด เป็นเหมือนคนที่ถูกคลุมด้วยเมฆดำหนาทึบ  หรือตัวเนื้อเปียกปอนด้วยเหงื่อเมื่อเขาต้องทำอะไรในชีวิต   เขาจะตั้งข้อสงสัยการเติบโตของคริสตจักรอื่นๆ   อีกทั้งมองว่า คริสตชนที่มีความชื่นชมยินดีเป็นคริสตชนที่ตื้นเขิน   ความคิดความเชื่อที่ครอบงำเขาเป็นเรื่องความบาปและการพิพากษาจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันตายของเขา

ศบ. คุยโตโอ้อวด

ศิษยาภิบาลประเภทนี้เก่งในการทำให้เพื่อศิษยาภิบาลคนอื่นรู้สึกแย่กว่าตน  และดูจะชื่นชอบในการกระทำเช่นนั้น(หลายครั้งโดยไม่รู้ตัว)   บ่อยครั้งทำตัวเป็นนักรายงานข่าวกับคนที่เขาพบเจอพูดคุย (เพื่อแสดงว่าเขาเป็นผู้รู้)  เขาเป็นคนที่ชำนาญเกี่ยวกับเรื่องตัวเลข  และมักจะมีตัวเลขของผู้ที่เข้ามาร่วมนมัสการครั้งล่าสุด   ตัวเลขชั้นเรียน  ผู้คนที่มาเรียนในชั้นรวีฯ   ตัวเลขผู้รับบัพติสมาใหม่  จำนวนครั้งที่ตนได้รับเชิญไปร่วมประชุมสัมนา   จำนวนครั้ง/จำนวนคนของกิจกรรมที่ตนไปร่วมมา(ไม่รู้เกี่ยวกับชีวิตคริสตจักรหรือไม่ก็นำมารายงาน)   เมื่อมีคนมาเยี่ยมคริสตจักรของศิษยาภิบาลประเภทนี้จะรู้สึกว่าชีวิตจริงของคริสตจักรไม่เป็นไปตามราคาคุยของศิษยาภิบาล   แต่สภาพความเป็นจริงมันฟ้องว่าศิษยาภิบาลโม้มากไปหน่อยหรือเปล่าเนี่ย!

ศบ. มาดวิชาการ

ศิษยาภิบาลประเภทที่ขยันอ่าน   เขาสามารถอ้างอิงคำพูดสำคัญๆ จากคนในยุคต่างๆ ของคริสตจักร   ขนาดที่ผู้ฟังรู้สึกว่า เขาน่าจะรู้จักคนสำคัญเหล่านั้นในประวัติศาสตร์คริสจักรเป็นการส่วนตัว   เขาเรียกตนเองว่าเป็น “ศิษยาภิบาลนักวิชาการ”   ศิษยาภิบาลประเภทนี้มักเข้าใจว่า  การเลี้ยงดูลูกแกะที่ดีที่สุดคือการเตรียมเทศนาที่ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมงต่อหนึ่งกัณฑ์เทศน์  ลูกแกะคริสตจักรแห่งนี้น่าจะโชคดีเหลือเกิน?

ศบ. สังคมสัมพันธ์

ศิษยาภิบาลประเภทนี้มีความสัมพันธ์กับสังคมเป็นอย่างดี   เขาเข้าสังคมได้อย่างดีเยี่ยม  และมีกิจกรรมมากมายที่ทำในสังคมชุมชนในแต่ละสัปดาห์   เป็นศิษยาภิบาลที่ชอบออกไปเยี่ยมคนโน้นไปพบคนนี้ใช้วันละหลายๆ ชั่วโมงในการพบปะกับผู้คนในสังคม   เขาชอบรับแขกที่แม้จะมิได้นัดหมายก็ตาม   ชอบคนโทรศัพท์มาพูดคุยด้วย   ศิษยาภิบาลประเภทนี้จะอ้างว่าการพบปะสัมพันธ์ผู้คนสำคัญกว่าการอ่านหนังสือและการค้นคว้าพระวจนะของพระเจ้า   ไม่ต้องไปพูดถึงการค้นคว้าขุดรากศัพท์ภาษากรีก-ฮีบรู   เขาเห็นว่าเสียเวลาอย่างไม่คุ้มค่า   เขาเป็นคนที่รักสังคมชุมชนมาก   แต่คนที่มานั่งฟังเขาเช้าวันอาทิตย์ดูลดน้อยถอดลงเป็นลำดับ

ศบ. นักบริหารจัดการ

ศิษยาภิบาลประเภทนี้ชอบงานเอกสาร  อีเมล์  รายงาน  กรรมการ  กฎระเบียบคริสตจักร  โครงสร้างคริสตจักร  ระเบียบปฏิบัติ   สิ่งเหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบของศิษยาภิบาลประเภทนี้   ถ้าให้เลือกระหว่างการทำพันธกิจคริสตจักร กับ การบริหารจัดการคริสตจักร   ประการหลังนี้ดูเป็นเรื่องสำคัญและรีบด่วนกว่า   หมายความว่าเรื่องคนเรื่องสมาชิกเป็นเรื่องที่รอกันได้   แต่รายงานนี้ต้องส่งอาทิตย์หน้า   ดูเหมือนรายงาน  และเอกสารเป็นเรื่องที่บีบรัดมากกว่าการเตรียมเทศนาและการเยี่ยมเยียน   ความเร่งรีบสำคัญและจำเป็นที่จะต้องจัดการมีผลกระทบให้การเตรียมการเทศนาและการเยี่ยมเยียนดูสำคัญน้อยกว่างานการบริหารจัดการในสำนักงานคริสตจักร

ผมเชื่อแน่ว่า  ท่านคงเคยพบศิษยาภิบาลทุกประเภทมาแล้วทั้งสิ้น  เพียงบางประเภทน้อยบ้าง บางประเภทมากบ้างแล้วแต่โอกาส  แล้วแต่ศิษยาภิบาลแต่ละท่าน  และผมเชื่อแน่ว่า จากประสบการณ์ของท่านยังสามารถที่จะเขียนเพิ่มประเภทศิษยาภิบาลต่อท้ายนี้ได้อีก  เช่น  ศบ. นักการเมือง,   ศบ. จัดทำโครงการ,   ศบ. นักสังคมสงเคราะห์ และ ฯลฯ

ในฐานะที่ผมเคยทำงานด้านการอภิบาลมาบ้างเล็กน้อย  เมื่อใคร่ครวญถึงเรื่องนี้แล้วผมกลับพบว่า  ในตัวผมเคยมีศิษยาภิบาลทุกประเภท   มากบ้างน้อยบ้างคละเคล้ากันไป   และบางครั้งเป็นศิษาภิบาลทุกประเภทในวันเดียวกัน


เมื่อสิ้นสุดในแต่ละวัน  ให้เรานำบุคลิกลักษณะศิษยาภิบาลที่ปนเปื้อนด้วยความบาปทั้งหลายมาวางไว้ต่อหน้ากางเขนของพระคริสต์อีกครั้งหนึ่ง   เพื่อทูลขอรับการให้อภัยจากพระองค์ และรับการทรงเสริมสร้างใหม่จากพระองค์ด้วย    มุ่งมองไปที่พระคริสต์ผู้ยอมสละชีวิตเพื่อเรา  เพื่อความบาปผิดของบรรดาศิษยาภิบาลคริสตชนทั้งหลาย   ยิ่งเรามีโอกาสอภิบาลชีวิตและเทศนาแก่ผู้คนมากแค่ไหน   เรายิ่งสำนึกถึงคุณค่าที่พระองค์ทรงกอบกู้ไถ่ถอนชีวิตของเราผู้เป็นศิษยาภิบาลออกมาจากอำนาจแห่งความบาปชั่วมากแค่นั้น

เพียงขอให้เรามั่นใจว่า  เรากำลังติดตามใครกันแน่   ขอให้เราพิเคราะห์ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ว่า  เรากำลังติดตามพระคริสต์มากกว่าการติดตามสิ่งอื่นใดหรือใครคนใดคนหนึ่งใช่ไหม?   เพราะพระองค์ทรงสัญญาว่า   ให้เราติดตามพระองค์  แล้วพระองค์จะทรงทำให้เราเป็นคนที่นำคนอื่นมาหาพระองค์   ดั่งชาวประมงได้นำปลาจากทะเล (มัทธิว 4:19)

แล้วผมก็นั่งถามตัวเองหน้าแป้นคอมพิวเตอร์ว่า   แล้วศิษยาภิบาลที่สอดคล้องตามพระประสงค์ของพระเจ้าและตอบโจทย์บริบทชีวิตสมาชิกในคริสตจักร และสังคมไทยนั้นเป็นอย่างไรบ้างหนอ?

ท่านผู้อ่านช่วยกรุณาระดมความคิดเห็นด้วยนะครับ!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น