อ่าน โรม 5:1-5
พระคุณของพระเจ้า
เป็นพลังแห่งแผนการและพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงมีสำหรับชีวิตของเราให้มีคุณภาพชีวิตตามการทรงสร้างแต่แรกเริ่ม
ที่มิใช่เพราะเราร้องขอพระองค์ให้ช่วยกระทำเพื่อเรา แต่เป็นพระราชกิจแห่งความรักเมตตาของพระองค์ที่ทรงกระทำตามแผนการที่พระองค์มีเพื่อชีวิตของเรา
เมื่อเรายอมที่จะเปิดชีวิตของเราให้พระองค์เข้ามารื้อถอน เปลี่ยนแปลง
สร้างใหม่ตามแผนการของพระองค์
เมื่อพูดถึงเรื่องพระคุณของพระเจ้า ซึ่งเป็นหลักการความเชื่อศรัทธาของคริสตชนเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตที่มิได้ขึ้นอยู่กับผลการกระทำของตนเอง แต่เป็นการที่พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจแห่งการทรงช่วยให้เราหลุดรอดออกจากอำนาจแห่งความบาปชั่วในรูปแบบต่างๆ ชีวิตของคริสตชนจึงมิได้ถูกอำนาจบาปครอบงำให้กระทำชั่วต่อไป พระคริสต์ทรงช่วยคนบาปให้สามารถแหวกออกจากกรงเล็บปีศาจ ไม่ต้องมีชีวิตตามอำนาจที่บังคับให้ชีวิตของเราต้องวนเวียนในวงจรอุบาทว์ของความบาปต่อไป แต่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ในชีวิต
และนี่เป็นพระคุณของพระเจ้าที่มีสำหรับชีวิตของเรา
พระองค์ทรงเลือกเรา ช่วยเรา
มิใช่เพราะเราเป็นคนดีกระทำถูกต้อง
แต่พระองค์เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราเพราะพระองค์ทรงรักและเมตตาเราประสงค์ที่จะฉุดช่วยเราออกจากการครอบงำของอำนาจบาป และ ให้เราเข้ามามีชีวิตภายใต้การปกป้องคุ้มครองแห่งความรักเมตตาของพระองค์ ที่เปาโลเรียกว่า ชีวิตในพระคริสต์ หรือในพระกิตติคุณเรียกว่า แผ่นดินสวรรค์ หรือ
แผ่นดินของพระเจ้า
ทั้งสิ้นนี้หมายความว่า
เมื่อชีวิตของเราได้รับการทรงฉุดให้หลุดรอดออกจากอำนาจของความบาปชั่วในรูปแบบต่างๆ
แล้ว
เราจะต้องเข้ามาอยู่ภายใต้การคุ้มครองปกป้องของพระเยซูคริสต์ เพื่อรับการเยียวยารักษาบาดแผลที่เป็นผลจากอำนาจของความบาปชั่ว แล้วทรงเปลี่ยนแปลงหลักคิดหลักเชื่อของเรา ทรงเปลี่ยนแปลงมุมมอง ทัศนคติ
วิธีรับรู้ในชีวิตของเราให้เป็นกระบวนการคิด การตัดสินใจ
และการจัดการชีวิตบนรากฐานแห่งพระคุณของพระองค์ กระบวนการนี้เปาโลใช้คำว่า เราได้รับการทรงชำระด้วยความเชื่อ (ข้อ 1)
และนี่ก็เป็นพลังแห่งพระคุณของพระเจ้าในอีกมิติหนึ่ง
พระคุณของพระเจ้าเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและการสร้างใหม่ในชีวิตของผู้ที่เข้ามาอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระคริสต์ เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างชีวิตของเราให้มีคุณภาพตามชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนในด้านต่างๆ ที่สำคัญคือ
- เปลี่ยนจากสถานภาพทาสรับใช้ของอำนาจแห่งความบาปชั่ว มาสู่การเป็นบุตรของพระเจ้า
- เปลี่ยนจากสภาพชีวิตบาดเจ็บเต็มด้วยบาดแผลในชีวิต จิตใจ และจิตวิญญาณ แต่ได้รับการเยียวยาจากความรักเมตตาของพระองค์ทั้งโดยตรงและผ่านชุมชน คริสตชนและคริสตจักร
- ปรับเปลี่ยนสัมพันธภาพของเรากับพระเจ้าใหม่ให้ชีวิตของเราใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ และตระหนักเสมอว่า พระคริสต์ทรงเคียงข้างการดำเนินชีวิตของเราตลอดเวลา
- เรามิได้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ หรือ ในแผ่นดินของพระเจ้า ด้วยพลังความสามารถของเราเอง แต่ด้วยพระกำลังของพระเจ้าที่สำแดงผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เคียงข้างชีวิตของเราเสมอ
- มีมุมมองใหม่ ทั้งโลกทัศน์ ชีวทัศน์ รวมไปถึงสังคมทัศน์ เศรษฐทัศน์ ที่ทำให้เรามองชีวิตที่เราต้องเผชิญหน้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าเป็นกระบวนการรับการเสริมสร้างจากพระเจ้า เรามองความทุกข์ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะเสริมสร้างชีวิตของเราให้เข้มแข็งอดทน และนำสู่การเกิดผลในชีวิตมากยิ่งขึ้น
- มีมุมมองว่า ชีวิตที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้เป็นชีวิตที่ “อยู่ภายใต้ร่มพระคุณของพระเจ้า” ที่เราอยู่ด้วยการทรงปกป้องคุ้มครองจากความรักเมตตาของพระคริสต์ และมีเป้าหมายชีวิตอยู่เพื่อมีชีวิตที่ดำเนินไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า และมีชีวิตที่มีพระเจ้าทรงเป็นใหญ่ที่สุดในชีวิตของตน
- มีมุมมองว่า การมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เป็นชีวิตที่มีความชื่นชมยินดีในพระเยซูคริสต์ ที่มีความชื่นชมยินดีมิใช่เพราะสภาพแวดล้อมชีวิตที่ดี ที่เราพึงพอใจ ที่เป็นไปตามใจปรารถนาของเรา แต่ที่ชีวิตของเราชื่นชมยินดีเพราะเราพบกับคุณค่าและความหมายใหม่ในพระเยซูคริสต์ แม้ว่าในสถานการณ์แวดล้อมที่มีความสุขสงบ หรือทุกข์ยากลำเค็ญก็ตาม
- เกิดการปรับเปลี่ยนความหวังในชีวิต จากความหวังว่าชีวิตของเราจะเป็นไปตามที่เราปรารถนาคาดหวัง เป็นความหวังที่เราจะมีส่วนในความสำเร็จในชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้า แต่ ความหวังใหม่ของเราคือ การที่จะมีชีวิตรับใช้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ทุกวันนี้
เราท่านดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยพลังอะไร? ด้วยพลังแห่งพระคุณของพระเจ้า หรือด้วยพลังแห่งใจปรารถนาของตนเอง?
เราขับเคลื่อนไปสู่ความหวังตามใจปรารถนาของเรา หรือมุ่งหน้าไปสู่ชีวิตตามพระประสงค์ในชีวิตของเรา?
ทุกวันนี้การดำเนินชีวิตประจำวันของเราเป็นไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งตีบตัน
หรือขับเคลื่อนไปด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจว่า
ทุกก้าวเดินชีวิตในวันนี้พระเจ้าทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตของเรา
เราจึงมุ่งหน้าไปด้วยความหวังและชื่นชมยินดี แม้สถานการณ์รอบข้างจะเลวร้ายทุกข์ยากอย่างไรก็ตาม
ทุกวันนี้เรารู้สึกว่าการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรามีแต่ความโดดเดี่ยวว้าเหว่
หรือเราตระหนักและสัมผัสได้ว่าในแต่ละเหตุการณ์ ในแต่ละช่วงตอนในชีวิตมีพระคริสต์เคียงข้าง และพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้เรามีพลังก้าวไปทีละก้าวด้วยความไว้วางใจ
และมั่นใจว่าเราจะสามารถเผชิญหน้าสถานการณ์ดังกล่าวและผ่านสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีคุณค่าและความหมายสำหรับชีวิตวันนี้ของเรา
วันนี้พระเจ้าทรงชี้นำเส้นทางชีวิตที่เราจะต้องเดินไป
พระคริสต์ทรงเคียงข้างเราในทุกย่างก้าวชีวิต และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงหนุนเสริมเพิ่มพลังชีวิตแก่เราตลอดวันและในทุกเหตุการณ์น้อยใหญ่
วันนี้เป็นวันที่เราจะขับเคลื่อนชีวิตของเราไปด้วยพลังแห่งพระคุณครับ!
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
081-2894499
อาเมนครับ
ตอบลบสาระดีแต่ม่มีข้อพระคำภ้ร์หนุนคับ
ตอบลบ