ครอบครัว:
ผู้สร้างผลกระทบทางความเชื่อของผู้คนในคริสตจักร
อ่านเฉลยธรรมบัญญัติ
6:6-9
การวางรากฐานและการบ่มเพาะฟูมฟักชีวิตคริสตชนให้เติบโตขึ้นเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกวันเป็นพันธกิจรากฐานที่คริสตจักรทุกคริสตจักรจะต้องกระทำด้วยความรับผิดชอบ และการหว่าน
เพาะเมล็ดแห่งพระวจนะลงในชีวิตของผู้คนในชุมชนคริสตจักรแต่ละคนเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกของการอภิบาลสร้างเสริมชีวิตคริสเตียน
การหว่าน เพาะ
และฟูมฟักดังกล่าวมิใช่เป็นเรื่อง “รวีวารศึกษา”
การเรียนพระคัมภีร์ในชั้นเรียนวันอาทิตย์
และการฟังเทศนาในการนมัสการพระเจ้าเช้าวันอาทิตย์เท่านั้น แต่เป็นการหว่าน เพาะ และฟูมฟักเมล็ดแห่งพระวจนะในทุกมิติชีวิตของแต่ละคน
ให้มีชีวิตพระคริสต์ที่เติบโตขึ้นในชีวิตส่วนตัวของตน ให้เติบโตขึ้นในการดำเนินชีวิตตามพระวจนะ
ให้เป็นชีวิตที่เต็มใจบริการรับใช้ผู้คนในชุมชนด้วยความรักเมตตาของพระคริสต์ ให้มีชีวิตที่สำแดงพระคริสต์ที่ผู้อื่นเห็นและสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน และเข้าร่วมสามัคคีธรรมด้วยการเอาใจใส่เกื้อหนุนชีวิตของกันและกันในชุมชนคริสตจักร ด้วยการนำของประทานที่ตนได้รับจากพระเจ้ามาพัฒนาให้เป็นทักษะความสามารถ และใช้ในงานรับใช้ทั้งในคริสตจักรและสังคมชุมชน
มากยิ่งกว่านั้น การเติบโตขึ้นของชีวิตคริสตชนมิได้เกิดขึ้นด้วยการกระทำและกิจกรรมต่างๆ
ในคริสตจักรเท่านั้น
แต่พระคัมภีร์ได้บ่งชี้ชัดเจนว่า แบบอย่าง
และการฟูมฟักชีวิตผู้เชื่อในบ้านและครอบครัวเป็นการวางรากฐานพระวจนะ และการบ่มเพาะ
ฟูมฟักชีวิตคริสตชนที่สำคัญยิ่ง
ในปัจจุบันนี้
จะมีสักกี่คริสตจักรในประเทศไทยที่เอาใจใส่ช่วยให้พ่อแม่และผู้ใหญ่ในครอบครัวเอาใจใส่จริงจังต่อการวางรากฐานพระวจนะ
และ การบ่มเพาะ ฟูมฟักชีวิตคริสเตียนแก่บุตรหลานของตนในบ้าน?
การวางรากฐานพระวจนะในชีวิตของลูกหลานมิใช่การอ่านพระคัมภีร์ การนมัสการ
หรือการบ่นว่าเท่านั้น
แต่พระคัมภีร์ชี้ชัดว่าการหว่าน บ่มเพาะพระวจนะ และฟูมฟักชีวิตคริสตชนในลูกหลานนั้น เป็นการที่จะช่วยให้พระวจนะนั้นแทรกซึมไปในทุกมิติของชีวิต
และเป็นแหล่งพลังการดำเนินชีวิตทั้งชีวิตของบุตรหลาน ในเฉลยธรรมบัญญัติ 6:6-7 กล่าวชัดเจนว่า
6จงให้บทบัญญัติทั้งปวงที่ข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน
7จงพร่ำสอนบทบัญญัติเหล่านี้แก่บุตรหลานของท่าน
จงพูดถึงบทบัญญัติเหล่านี้ขณะอยู่ที่บ้าน ขณะเดินไปตามทาง ขณะที่นอนลงหรือลุกขึ้น
8จงผูกไว้ที่มือเป็นสัญลักษณ์ และ คาดไว้ที่หน้าผาก
9จงเขียนไว้ที่วงกบประตู และ
ที่ประตูรั้วของท่าน (อมตธรรม)
จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป
เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาจะไม่หันเหไปจากทางนั้น
(สุภาษิต 22:6 อมตธรรม)
นี่คือความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่และครอบครัวในการหว่าน
เพาะพระวจนะ และ ฟูมฟักเลี้ยงดูชีวิตคริสตชนของผู้คนในบ้าน และนี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
เป็นพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบหมายและบัญชาแก่เราผู้เป็นพ่อแม่และผู้นำในครอบครัวที่จะต้องกระทำด้วยความรับผิดชอบ
แต่ก็เป็นความจริงอย่างที่พ่อแม่ผู้ปกครองในปัจจุบันบ่นกันว่า “เราเลี้ยงให้เขาเติบโตขึ้นด้านร่างกายได้ แต่เราไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูจิตใจของลูกหลาน” พ่อแม่คริสตชนที่ดีหลายคนที่ต้องทุกข์ใจกับลูกหลานที่ตัดสินใจเลือกทางดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด แต่ก็มีเด็กอีกหลายคนที่ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย แต่เขากลับพบทางสว่างแล้วหันมาดำเนินชีวิตตามวิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าได้มอบหมายภารกิจชีวิตที่สำคัญยิ่งแก่ผู้เป็นพ่อแม่และผู้ปกครองในครอบครัว
ในการที่จะต้องดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างตามพระวจนะแก่ผู้คนในบ้าน มิใช่เป็นแบบอย่างชีวิตตามกระแสสังคมในปัจจุบัน หรือมิใช่เป็นแบบอย่างชีวิตตามสติปัญญาหรือใจปรารถนาของตนเอง แต่การเป็นพ่อแม่คริสตชนที่ดีนั้นต้องวางรากฐานชีวิตแก่บุตรหลานและคนในบ้านด้วยการดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างตามพระวจนะของพระเจ้า(ซึ่งมีพลังและสร้างอิทธิพลต่อชีวิตผู้คนในบ้านหลายสิบหลายร้อยเท่า) ซึ่งการดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าเราพึ่งพิงในพระกำลัง การทรงนำ
พระปัญญา
และพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เคียงข้างและพร้อมหนุนเสริมเราทุกขณะ ดังนั้น
พ่อแม่/ผู้ปกครองจึงต้องมีชีวิตที่อธิษฐานติดสนิทกับพระเจ้าในทุกกรณี และต้องใคร่ครวญพิจารณาการดำเนินชีวิตของตนเองต่อพระพักตร์พระเจ้าทุกวัน
ให้การปรึกษาบนรากฐานแห่งพระวจนะแก่คนในครอบครัว
และกระตุ้นหนุนเสริมให้คนในครอบครัวได้คิดพิจารณา เลือก
และตัดสินใจตามหลักการตามพระวจนะและพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ประเด็นสำคัญที่เราต้องพิจารณาจริงจังร่วมกันคือ คริสตจักรท้องถิ่นได้ตระหนักในความสำคัญในบทบาทนี้ของพ่อแม่/ผู้ปกครองที่ร่วมในชุมชนคริสตจักรหรือไม่? ศิษยาภิบาล
คณะธรรมกิจคริสตจักร คณะผู้ปกครอง
ได้มีแผนการ กิจกรรมอะไรบ้างที่จะเตรียม เสริมสร้างความพร้อม
และการหนุนเสริมพ่อแม่ในการกระทำภารกิจอันสำคัญยิ่งจากพระเจ้าให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ในแต่ละครอบครัวของตน?
คริสตจักรต้องตระหนักชัดว่า คริสตชนแต่ละคนเข้มแข็ง ครอบครัวเข้มแข็ง และคริสตจักรเข้มแข็ง!
ถ้าคริสตจักรท้องถิ่นประสงค์ให้สมาชิกแต่ละคนเป็นคริสตชนที่ประกาศพระนามพระคริสต์ ต้องเริ่มต้นที่การเอาใจใส่ทุ่มเทในการเสริมสร้างสมาชิกให้หยั่งรากลึกลงในพระวจนะ และฟูมฟักเลี้ยงดูให้เป็นคริสตชนที่มีชีวิตแบบพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน!
และสิ่งนี้กระทำได้อย่างดีในชีวิตครอบครัว
คริสตจักรท้องถิ่น คริสตจักรภาค และสภาคริสตจักรจะต้องหันกลับมาเอาใจใส่ในภารกิจสำคัญที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้เรารับผิดชอบต่อพระองค์ร่วมกัน คริสตจักรจะมีวิธีการ ขั้นตอน
และกระบวนการอย่างไรบ้างที่จะเตรียมและเสริมสร้าง
และหนุนช่วยสมาชิกคริสตจักรแต่ละคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่ละครอบครัวให้มีชีวิตที่หยั่งรากลึกลงในพระวจนะของพระเจ้า เพื่อชีวิตคริสตชนจะเติบโต
เข้มแข็งอย่างพระคริสต์
- คริสตจักรจะช่วยครอบครัวทั้งหลายในคริสตจักร ทำหน้าที่วางรากฐานชีวิตคนในครอบครัวบนพระวจนะของพระเจ้าได้อย่างไร สมาชิกคริสตจักรแต่ละครอบครัวต้องการการเตรียม การช่วยเหลือ และการหนุนเสริมเช่นไรบ้างจากคริสตจักร?
- คริสตจักรจะเอาจริงเอาจังในเรื่องที่ตนได้ละเลยนี้อย่างไร? ทำอย่างไรที่พ่อแม่/ผู้ปกครองครอบครัวต่างๆ ในคริสตจักรมีโอกาสได้มาพูดคุย แบ่งปัน ปรึกษา อธิษฐานร่วมกัน หาทางออกที่ถูกต้องเหมาะสมด้วยกัน?
- คริสตจักรจะเป็นแหล่งเสริมสร้างความเชื่อและความเข้าใจในเรื่องการหว่าน และ บ่มเพาะเมล็ดพระวจนะ และฟูมฟักเลี้ยงดูชีวิตคริสตชนในครอบครัวแก่พ่อแม่/ผู้ปกครองในครอบครัวได้อย่างไร?
- คริสตจักรจะช่วยกันแสวงหา หรือ จัดทำเครื่องมือ วิธีการ ขั้นตอนต่างๆ สำหรับพ่อแม่/ผู้ปกครองครอบครัวจะนำไปใช้ในครอบครัวของตนอย่างไร?
- คริสตจักรจะทำหน้าที่กระตุ้นหนุนเสริมให้แต่ละครอบครัวได้เอา “เครื่องมือ วิธีการ และขั้นตอน” ข้างต้นไปใช้ในครอบครัวจริงจังได้อย่างไร?
- คริสตจักรท้องถิ่นจะเป็นตัวกลางประสานให้เกิดครอบครัวคู่มิตร ที่จะเป็นทั้งคู่คิด คู่ทำ คู่เรียนรู้ด้วยกันเพื่อที่จะกระตุ้น เสริมหนุน และอภิบาลกันและกันได้อย่างไร?
- คริสตจักรท้องถิ่นจะพร้อมให้การปรึกษา เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ของครอบครัวต่างๆ ที่เอาใจใส่หว่าน บ่มเพาะพระวจนะ และฟูมฟักเลี้ยงดูชีวิตคริสตชนแบบพระคริสต์แก่คนในบ้าน และนำประสบการณ์ที่ได้รับเหล่านั้นในการปรับประยุกต์ในครอบครัวอื่นๆ ได้อย่างไร?
นี่เป็นพันธกิจการเสริมสร้างศักยภาพพ่อแม่/ผู้ปกครอง ที่คริสตจักรไม่ควรจะละเลย!
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น