อ่าน มัทธิว 5:13-16
เราท่านทราบดีแล้วว่า รัฐบาล “ปู” 4 ถูกล้มไป รัฐบาลปู 5 ตั้งใหม่ตามก้นมา! ที่เปลี่ยนเพราะบริหารจนมีปัญหารุมเร้า ไม่มีทางออกหมดทางแก้ ก็ตัดสินใจล้มมันเสีย แล้วตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อยื้อครองอำนาจในประเทศไทยต่อไป
ประเทศไทยของเรามีเสรีภาพมากมาย ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย และหลายๆ ครั้งเราก็ใช้เสรีภาพดังกล่าวตามใจต้องการปรารถนาของตน และพยายามใช้ประชาธิปไตยแบบพวกมาก(อิทธิพล)ลากไป ใช้อำนาจรุนแรงต้านอำนาจอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อตนจะสามารถกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อเสริมสร้างโอกาสที่ตนจะทำทุกอย่างเพื่อตนจะได้อำนาจและประโยชน์ตามต้องการ แล้วหลอกล่อให้ประชาชน “งับเหยื่อ” เพื่อตนจะได้อ้างความชอบธรรมว่าเป็นความต้องการของประชาชน
แต่สำหรับคริสตชน
เสรีภาพเป็นของประทานประการหนึ่งที่พระเจ้าให้แก่ทุกผู้ทุกคน กล่าวชัดๆ คือเสรีภาพเป็นของประทานจากพระเจ้าที่ให้แก่มนุษย์แต่ละคนที่จะใช้อย่างรับผิดชอบที่จะสะท้อนถึงพระเจตนารมณ์และพระประสงค์ของพระเจ้า ใช้เสรีภาพเพื่อที่จะปกป้อง รักษา และเสริมสร้างชีวิตของกันและกันตามคุณค่าและศักดิ์ศรีที่พระเจ้าทรงสร้าง แต่น่าเศร้าใจที่คนส่วนมาก
(มิใช่คนในรัฐบาลปูเท่านั้น)
ต่างใช้ของประทานจากพระเจ้าในเรื่องเสรีภาพเพื่อตนเองและพรรคพวก แต่ที่น่าสลดใจมากกว่านั้นคือ คนในวงการชุมชนคริสตชน คริสตจักร
และสถาบันหน่วยงานคริสตชน
ก็ใช้ของประทานเรื่องเสรีภาพอย่างฉ้อฉลก็มีให้เห็น
คริสตชนพึงตระหนักชัดว่า ของประทานเรื่องเสรีภาพที่ให้แก่เราแต่ละคนเพื่อปกป้อง รักษา
และเสริมสร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง
ดังนั้นเสรีภาพที่เรามีนั้นเป็นเสรีภาพที่เราจะเอาใจใส่ความผาสุกของคนรอบข้างที่เราพบเห็นและสัมผัสในชีวิตประจำวัน มิใช่คนที่ไปพบกันที่คริสตจักรที่โบสถ์เท่านั้น แต่รวมถึงคนรอบข้างที่เราพบในที่ทำงาน บนท้องถนน
ในชุมชน
ในครอบครัวและก็รวมถึงคนในคริสตจักรด้วย
พี่น้องทั้งหลาย
เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ
ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง
แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด
(กาลาเทีย 5:13 มตฐ)
จงดำเนินชีวิตอย่างคนมีเสรีภาพ
แต่อย่าใช้เสรีภาพนั้นเป็นข้ออ้างเพื่อทำความชั่ว
แต่จงดำเนินชีวิตอย่างผู้รับใช้ของพระเจ้า
(1เปโตร 2:16 มตฐ)
ในแต่ละวันเราได้พบปะผู้คนที่กำลังเจ็บป่วย เจ็บปวด
ทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย
และจิตวิญญาณหรือไม่? เรามีโอกาสทำอะไรกับคนเหล่านี้บ้าง?
ท่านสามารถรู้ถึงเพื่อนร่วมงานที่กำลังมีความทุกข์ใจในเรื่องเศรษฐกิจในครอบครัว ความสัมพันธ์ในครอบครัว ปัญหาของลูกในครอบครัวหรือไม่?
ท่านมีส่วนในการเอาใจใส่เกื้อหนุนเขาอย่างไรบ้าง?
ในแต่ละวันมีหลายคนที่อยู่รอบข้างท่านที่รอคอยการหนุนเสริมทั้งร่างกายและจิตใจ
หรือ รอคอยความสัมพันธ์จากท่าน
แต่บ่อยครั้งที่คริสตชนเรามัวมุ่งมองและให้ความสำคัญแต่ชีวิตของตนเอง
การมุ่งมองมุ่งเน้นเช่นนี้เองไปจำกัดความสามารถของเราที่จะมองเห็นถึงความจำเป็นต้องการในชีวิตของคนรอบข้าง
ในแต่ละวัน อย่ามัวก้มมองหาแต่สิ่งที่ตนเองต้องการ แต่ให้เรามองไปข้างหน้า ข้างหลัง
และข้างๆ
เพื่อเราจะพบว่าเพื่อนบ้านกำลังรอคอยการช่วยเหลือและหนุนเสริมจากเรา เพื่อเราจะมองขึ้นไปเบื้องบนเพื่อขอพระปัญญาและการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าเราควรจะกระทำเช่นไรที่จะดีที่สุดสำหรับเขาคนนั้นตามพระประสงค์
แล้วยื่นมือยื่นชีวิตของเราออกไปช่วยเหลือตามการทรงนำนั้น
มีอยู่วันหนึ่ง ลูกสาวโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า
เขาขึ้นรถเมล์กลับบ้านหอบของมากมายจากสำนักงาน รถยัดเยียดด้วยผู้โดยสาร เป็นธรรมดาที่ต้องโหนรถเมล์ แต่วันนี้มีน้าผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยปากขอช่วยถือของมากมายนั้น แล้วยังมอบที่นั่งให้ลูกสาวก่อนลงรถ
พอดีมีสตรีอีกท่านหนึ่งก็หอบของเต็มไปหมดขึ้นรถเมล์มา ลูกสาวจึงอาสาช่วยถือของเหล่านั้นให้ นี่คือห่วงโซ่แห่งเสรีภาพที่เลือกจะรับใช้อย่างที่เปาโลกล่าวในจดหมายฝากข้างต้น จากคนหนึ่งส่งทอดไปยังอีกคนหนึ่ง
เป็นแสงสว่างที่ฉายออกกว้างจากทอดหนึ่งสู่อีกทอดหนึ่งอย่างไร้ขอบเขต
พระเยซูคริสต์สอนสาวกของพระองค์ว่า
14 “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก
นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้
15 เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้
ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง
จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น
16 ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง
เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ (มัทธิว 5:14-16 มตฐ)
เสรีภาพคือการที่เราตัดสินใจเลือกที่จะให้ชีวิตของเราฉายส่องออกไปให้ความสว่างแก่ผู้คนรอบข้าง
มากกว่าที่จะมุ่งเน้นควานหาผลประโยชน์หรือความสว่างเพื่อตนเองเท่านั้น เสรีภาพเป็นของประทานจากพระเจ้า เพื่อท่านจะใช้ของประทานนี้หนุนเสริมและเป็นประโยชน์ในชีวิตของคนรอบข้างด้วย เสรีภาพของคริสตชนคือการที่เราเลือกจะให้อย่างพระคริสต์ มากกว่าที่จะกอบโกยเพื่อตนเอง
เปาโลกล่าวในจดหมายที่เขียนถึงคนในเมืองเอเฟซัสว่า
“เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี...”(2:10 มตฐ)
ทั้งสิ้นนี้การที่เราจะมีชีวิตคริสตชนที่ส่งผลกระทบลบหรือบวกต่อสังคมโลกและคนรอบข้าง เริ่มต้นที่ใจของเราครับ ท่านจะใช้ชีวิตและเสรีภาพที่พระเจ้าประทานให้แก่ท่านอย่างไรย่อมจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนอื่นและสังคมโลกอย่างนั้น อยู่ที่ท่านจะใช้เสรีภาพเลือกที่มุ่งมองลงที่ใจปรารถนาของตนเอง
หรือ จะมองชีวิตรอบข้าง, ท่านจะใช้ชีวิตของท่านรีบไขว่คว้าฉวยประโยชน์มาเป็นของตน
หรือ เลือกที่จะสนใจชีวิตรอบข้างท่านแล้วยื่นมือยื่นชีวิตออกของท่านออกไปเพื่อช่วยเขา ตามการทรงชี้นำของพระปัญญา และกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น