16 ธันวาคม 2556

ทำดีตอบแทนชั่ว

พระประสงค์ของพระเจ้าที่สวนทางกับใจปรารถนาของมนุษย์

อย่า​ให้​ความ​ชั่ว​ชนะ​เรา​ได้ แต่​จง​ชนะ​ความ​ชั่ว​ด้วย​ความ​ดี (โรม 12:21 มตฐ.)
อย่าพ่ายแพ้แก่ความชั่ว  แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี (อมตธรรม)

การสร้างศานติมิใช่จะกระทำได้ง่ายอย่างใจปรารถนาเสมอไป   ในสังคมของเราปัจจุบันมีทั้งผู้ที่ต้องการที่จะสร้างศานติ   และก็มีบางพวกบางกลุ่มที่ทำตัวเป็นอุปสรรคขวางกั้นการก่อเกิดศานติ  บ้างก็คอยแต่ปกป้องตนเองและผลประโยชน์ของตนเองจนกลายเป็นตัวต่อต้านการสร้างศานติในชุมชน   หรือบ้างก็ทำตัวต่อต้านการคืนดี  

ในเวลาเดียวกันฝ่ายต่างๆ ก็ขาดความไว้วางใจกันและกัน   มองว่าคนอื่นกลุ่มอื่นอาจจะทำทีว่าขอคืนดีมีแผนซ่อนเร้น  มิใช่ต้องการคืนดีด้วยจริงใจ   ซึ่งเบื้องหลังที่ระวังปกป้องตนเองก็เพื่อจะเอาชนะกลุ่มอื่นในที่สุด  

ด้วยกรอบคิดและมุมมองเช่นนี้ของกลุ่มต่างๆ ในสังคมชุมชน   นอกจากศานติจะไม่บังเกิดขึ้นแล้ว   ยังจะเสริมสร้างความเป็นศัตรูต่อกันที่เข้มแข็งรุนแรงยิ่งขึ้น   แน่นอนครับย่อมนำเอาความสับสน ขัดแย้งเกิดมากยิ่งขึ้นในสังคมชุมชนของเรา

ธรรมชาติในความเป็นมนุษย์ของเรา   เมื่อมีใครกระทำผิดกระทำชั่วต่อเรา   เราส่วนใหญ่มักต้องการที่จะตอบสนองต่อเขาให้สาสมที่เขากระทำต่อเรา   หรืออย่างดีที่สุดก็หยุดที่จะกระทำดีต่อคนเหล่านั้นที่ทำผิดทำชั่วต่อเรา   แต่พระเยซูคริสต์ทรงเรียกร้องและชี้แนวทางของพระเจ้าในการตอบสนองต่อคนเหล่านั้นที่กระทำผิดต่อเรา  หรือสร้างความเจ็บปวดแก่เราในชีวิตว่า 

แต่​เรา​บอก​พวก​ท่าน​ที่​กำ​ลัง​ฟัง​อยู่​ว่า
จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน
จง​ทำ​ดี​กับ​คน​ที่​เกลียด​ชัง​ท่าน
จง​อวย​พร​แก่​คน​ที่​แช่ง​ด่า​ท่าน
จง​อธิษฐานเผื่อ​คน​ที่​ทำร้าย​ท่าน
...​จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน​และ​ทำ​ดี​ต่อ​เขา
... แล้วบำเหน็จของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​มี​บริบูรณ์
แล้ว​ท่าน​จะ​เป็น​บุตร​ของ​องค์​ผู้​สูง​สุด
เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​พระ​กรุณา​ทั้ง​ต่อ​คน​ อกตัญญูและ​คน​ชั่ว
พวก​ท่าน​จง​มี​ใจ​เมตตากรุณา​เหมือน​อย่าง​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​มี​พระ​ทัย​เมตตากรุณา
(ลูกา 6:27-28,  35-36 มตฐ.)

ในความคิดความรู้สึกส่วนตัวของเรา   มีคนแบบข้างล่างนี้อยู่ในส่วนลึกชีวิตและความรู้สึกของเราหรือไม่
  • คนที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเรา
  • คนที่เราเกลียด
  • คนที่เราแช่งชักหักกระดูก
  • คนที่กระทำผิดต่อเรา
  • คนที่ทำให้เราต้องเจ็บปวดในชีวิต


เมื่อถูกกระตุ้นให้สำรวจตนเอง  เราอาจจะเห็นใบหน้าของบางคนผุดขึ้นในห้วงความคิดจินตนาการของเราทันที   หรือบางท่านก็อาจจะบอกว่า   มันบ่งชี้ยากว่ามีใครบ้างที่เป็นคนประเภทที่กล่าวข้างต้น   เอาเป็นว่า ใครที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ   ใครที่ทำให้เราต้องรู้สึกหรือได้รับความยากลำบาก

แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นคนในกลุ่มไหนประเภทใดที่กล่าวข้างต้นนี้   พระเยซูคริสต์ทรงชี้นำให้เราตอบโต้ต่อพฤติกรรมของคนกลุ่มเหล่านี้ที่แตกต่างจากความเคยชินตามกระแสโลก   พระองค์ทรงเรียกและชี้นำให้เรา “รักเมตตา   กระทำดี   อวยพร  และอธิษฐานเพื่อคนดังกล่าวเหล่านี้”

แต่เราก็ต้องตระหนักชัดอีกเช่นกันว่า   โดยกำลัง ความสามารถ  และพลังภายในชีวิตของเราไม่สามารถกระทำอย่างเชื่อฟังตามพระประสงค์ของพระคริสต์   แต่เราสามารถที่จะทูลขอพระกำลังให้เป็นกำลังชีวิตจิตวิญญาณของเราให้เราเป็นสะพานแห่งพระคุณของพระเจ้าที่ทอดเข้าไปถึงชีวิตของคนเหล่านี้   ถึงแม้เราจะรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่จะยากแสนยากที่มนุษย์จะมีจิตใจกระทำอย่างที่พระองค์ทรงเรียกและชี้นำได้ก็ตามก็ตาม   แต่ด้วยพระกำลังของพระคริสต์ผ่านพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่กระทำในชีวิตของเรา   เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้

ในช่วงเวลาแห่งการเตรียมพื้นที่ชีวิตรับการมาของพระคริสต์   ให้เรามีพื้นที่ชีวิตประจำวันของเราในการสร้างศานติตามพระประสงค์ของพระเจ้า    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤติขัดแย้งทางการเมือง  สังคม  และความสัมพันธ์ในสังคมประเทศของเรา

ด้วยพระกำลังจากพระคริสต์เราจึงเป็นเครื่องมือแห่งการสร้างชุมชนสังคมศานติแบบแผ่นดินของพระเจ้าในสังคมชุมชนไทยในวันนี้ได้ครับ!

พระเจ้าทรงเรียกเราแต่ละคนให้เป็นผู้สร้างศานติจากสังคม ชุมชน ที่เราดำเนินชีวิตอยู่ในวันนี้ครับ

สำหรับพระคริสต์แล้ว  “ความสุขมีแก่ผู้ที่สร้างสันติ   เพราะเขาจะได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า” (มัทธิว 5:9 อมต.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น