อ่านมัทธิว
11:2-11
ยอห์นซึ่งอยู่ในคุก
ได้ยินเกี่ยวกับงานต่างๆ
ของพระคริสต์ก็ใช้พวกศิษย์ไปทูลถามพระองค์ว่า
“ท่านเป็นคนที่จะมานั้น
หรือว่าเราจะต้องรอคอยคนอื่น?”
(มัทธิว 11:2)
ภายหลังที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมาคอยสดับตรับฟังถึงสิ่งที่พระเยซูคริสต์กระทำ ทำให้เขาเกิดความไม่แน่ใจ จึงส่งลูกศิษย์ของตนเองไปถามพระเยซูว่า “ท่านเป็นคนที่จะมานั้น หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”
นี่เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในห้วงลึกแห่งจิตใจของเขา เพราะยอห์นเองเข้าใจตนเองว่าเป็นผู้มาเตรียมทางสำหรับพระเมสสิยาห์
แต่เริ่มแรกเขาเข้าใจว่าพระเยซูคริสต์คือพระเมสสิยาห์ แต่เมื่อคอยติดตามพระรากิจของพระองค์ ในคุกที่ๆ เงียบที่เขามีโอกาสใคร่ครวญอย่างสุขุม เขาเกิดคำถามตนเองว่า พระเยซูคือคนที่พวกเขารอคอยหรือไม่?
ทำไมยอห์นถึงเกิดคำถามในใจเช่นนี้?
ยอห์นต้องรู้เรื่องราวการตั้งครรภ์และการเกิดของเขากับพระเยซู
(ลูกา บทที่ 1)
เขารู้ว่าตนมีหน้าที่ที่จะประกาศถึงการมาของพระเมสสิยาห์ และ ยอห์นเป็นคนที่ให้บัพติศมาแก่พระเยซูด้วยตนเอง และยังบอกลูกศิษย์ของตนเองว่าคนนี้แหละคือคนที่พระเจ้าส่งมา เพื่อการปลดปล่อยอิสราเอล เวลานี้เมื่อต้องอยู่โดดเดี่ยวในคุก ยอห์นเกิดคำถามในใจของเขาว่า
“ท่านเป็นคนที่จะมานั้น
หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”
ในความรู้สึกของยอห์น
รู้สึกว่าเหตุการณ์งานของพระเยซูดูจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาและผู้คนคาดฝัน เพราะพระเมสสิยาห์ที่ยอห์นประกาศว่าจะมานั้น จะมาด้วยการแก้แค้น และ
ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่
ที่จะนำไปสู่การตั้งอาณาจักรใหม่ที่มีความยุติธรรม แน่นอนครับ
ยอห์นต้องงงงวยอย่างมาก
พระเยซูไม่มีแนวโน้มที่จะทำอย่างที่อิสยาห์ทำนายและที่พวกเขาคาดหวังว่า
“...เพื่อนำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ
พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อปลอบโยนคนชอกช้ำใจ
และเพื่อประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย
ทั้งประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ที่ถูกจำจอง...” (อิสยาห์ 61:1)
กล่าวคือพวกเขาคาดหวังว่า
พระเมสสิยาห์จะต้องมาเพื่อปลดปล่อยด้านการเมืองและการปกครอง ดังนั้น เขาจึงเกิดคำถามในใจว่า
“ท่านเป็นคนที่จะมานั้น
หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”
คำถามนี้เป็นคำถามที่เยี่ยมและเหมาะสมในช่วงเวลาของการเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสต์สู่ชีวิตของเรา เป็นช่วงเวลาที่เรารอคอยด้วยการคาดหวัง แต่เป็นช่วงเวลาที่เราควรสงบชื่นชมยินดีแต่กลับถูกครอบงำบดบังด้วยความว้าวุ่นไร้ความสงบในจิตใจ จิตใจที่ถูกครอบงำและคลุมด้วยความมืด สลัว และเศร้าหมอง
เรากำลังรอคอยคาดหวังบางสิ่ง
บางคน บางเหตุการณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่พระคริสต์กระทำหรือไม่?
เรารอคอยและคาดหวังในบางสิ่งบางคน
และบางเหตุการณ์ที่เราจะมั่นใจ พอใจ
อิ่มใจมากกว่านี้ใช่ไหม?
เรากำลังรอคอยและคาดหวังว่า ชีวิตเราน่าจะเป็นผู้มีชัยมากกว่านี้หรือเปล่า?
ในช่วงเวลาเตรียมการเข้ามาของพระคริสต์ในชีวิตของเรา ให้เรากลับทบทวนและใคร่ครวญถึงคำตอบที่พระเยซูคริสต์ฝากลูกศิษย์ไปบอกยอห์นผู้ให้บัพติศมาที่ถูกขังในคุกว่า
“...ไปบอกยอห์นในสิ่งที่พวกท่านได้ยินและได้เห็นคือว่า...
บรรดาคนตาบอดเห็นได้ พวกคนง่อยเดินได้
บรรดาคนที่เป็นโรคเรื้อนหายสะอาด
บรรดาคนหูหนวกได้ยิน
บรรดาคนตายเป็นขึ้น
และคนยากจนทั้งหลายได้รับข่าวดี
ใครไม่มีเหตุสะดุดในตัวเรา คนนั้นก็เป็นสุข” (มัทธิว 11:4-6)
คำตอบของพระคริสต์กระตุกจิตสำนึกของผมในช่วงเวลาเตรียมรับเสด็จนี้ว่า
พระเมสสิยาห์ที่เรารอคอยคาดฝันแตกต่างจาก
พระเมสสิยาห์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
เราต้องการพระเมสสิยาห์ตามกระแสโลกปัจจุบัน เราต้องการพระเมสสิยาห์ที่สำแดงพลังอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมและการเมือง
ในขณะที่พระคริสต์สำแดงว่าพระเมสสิยาห์ตามพระประสงค์ของพระเจ้าคือ ผู้ที่เอาใจใส่คนที่ถูกกระทำในลักษณะต่างๆ คนที่ไม่สามารถจะมองเห็น คนที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ คนที่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปด้วยตนเอง
คนที่ถูกตีตรากล่าวร้ายจนอยู่ในสังคมชุมชนไม่ได้ คนที่มีชีวิตแต่เป็นชีวิตที่ “ตาย”
จากศักดิ์ศรีและพระฉายาของพระเจ้า ข่าวดีของพระคริสต์ประกาศแก่คนเหล่านี้ที่ถูกฉกฉวยและทำลายโอกาสที่พระเจ้าประทานให้ คนยากคนจน
แท้จริงแล้วข่าวดีของพระเยซูคริสต์คือพระองค์ทรงใช้ชีวิตเคียงข้างคนยากคนจน
คนเล็กน้อยและคนถูกกระทำ
ถ้าพระคริสต์เข้ามาในชีวิตของเรา และชีวิตของเราต้องเปลี่ยนไปเป็นเหมือนอย่างพระองค์เป็น
พระองค์ทำ ท่านคิดว่ายังจะต้อนรับพระองค์เข้าในชีวิตอยู่หรือไม่?
พระเมสสิยาห์ของเราเหมือน
หรือ แตกต่าง หรือ เป็นพระเมสสิยาห์คนละองค์กับพระเยซูคริสต์?
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ทุกอย่างที่เราเหนื่อยล้า ท้อแท้หมดความหวังและกำลังใจสับสนและว้าวุ่น พระองค์ทรงเป็นเหมือนที่พวกเราเป็น แต่พระองค์จะทรงแตกต่างในขณะที่ทุกอย่างที่เป็นพระองค์ถูกทำลายลง จนพระองค์อาจจะเหลือแค่เป็นธุลี แต่พระองค์จะสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยพระจิตที่เข้มแข็งและพระองค์จะชนะในสิ่งทั้งปวง
ตอบลบ