21 ธันวาคม 2556

เมื่อ “พระเมสสิยาห์” เป็นคนละองค์กับที่เราคาดหวัง?

อ่านมัทธิว 11:2-11

ยอห์น​ซึ่ง​อยู่​ใน​คุก ได้​ยิน​เกี่ยว​กับ​งาน​ต่างๆ ของ​พระ​คริสต์​ก็​ใช้​พวก​ศิษย์​ไปทูล​ถาม​พระ​องค์​ว่า
ท่าน​เป็น​คน​ที่​จะ​มา​นั้น หรือ​ว่า​เรา​จะ​ต้อง​รอ​คอย​คน​อื่น?
(มัทธิว 11:2)

ภายหลังที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมาคอยสดับตรับฟังถึงสิ่งที่พระเยซูคริสต์กระทำ   ทำให้เขาเกิดความไม่แน่ใจ  จึงส่งลูกศิษย์ของตนเองไปถามพระเยซูว่า  “ท่านเป็นคนที่จะมานั้น  หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”  นี่เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในห้วงลึกแห่งจิตใจของเขา   เพราะยอห์นเองเข้าใจตนเองว่าเป็นผู้มาเตรียมทางสำหรับพระเมสสิยาห์   แต่เริ่มแรกเขาเข้าใจว่าพระเยซูคริสต์คือพระเมสสิยาห์   แต่เมื่อคอยติดตามพระรากิจของพระองค์   ในคุกที่ๆ เงียบที่เขามีโอกาสใคร่ครวญอย่างสุขุม   เขาเกิดคำถามตนเองว่า   พระเยซูคือคนที่พวกเขารอคอยหรือไม่?

ทำไมยอห์นถึงเกิดคำถามในใจเช่นนี้?

ยอห์นต้องรู้เรื่องราวการตั้งครรภ์และการเกิดของเขากับพระเยซู (ลูกา บทที่ 1)   เขารู้ว่าตนมีหน้าที่ที่จะประกาศถึงการมาของพระเมสสิยาห์   และ ยอห์นเป็นคนที่ให้บัพติศมาแก่พระเยซูด้วยตนเอง   และยังบอกลูกศิษย์ของตนเองว่าคนนี้แหละคือคนที่พระเจ้าส่งมา   เพื่อการปลดปล่อยอิสราเอล   เวลานี้เมื่อต้องอยู่โดดเดี่ยวในคุก   ยอห์นเกิดคำถามในใจของเขาว่า

“ท่านเป็นคนที่จะมานั้น หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”

ในความรู้สึกของยอห์น รู้สึกว่าเหตุการณ์งานของพระเยซูดูจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาและผู้คนคาดฝัน   เพราะพระเมสสิยาห์ที่ยอห์นประกาศว่าจะมานั้น   จะมาด้วยการแก้แค้น และ ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่   ที่จะนำไปสู่การตั้งอาณาจักรใหม่ที่มีความยุติธรรม   แน่นอนครับ  ยอห์นต้องงงงวยอย่างมาก   พระเยซูไม่มีแนวโน้มที่จะทำอย่างที่อิสยาห์ทำนายและที่พวกเขาคาดหวังว่า 

“...เพื่อ​นำ​ข่าว​ดี​มา​ยัง​คน​ที่​ทุกข์​ใจ
พระ​องค์​ทรง​ส่ง​ข้าพเจ้าไป​เพื่อ​ปลอบ​โยน​คน​ชอก​ช้ำ​ใจ
และเพื่อ​ประกาศ​อิสรภาพ​แก่​บรรดา​เชลย
ทั้ง​ประกาศ​การ​เปิด​เรือน​จำ​แก่​ผู้​ที่​ถูก​จำ​จอง...”  (อิสยาห์ 61:1)

กล่าวคือพวกเขาคาดหวังว่า พระเมสสิยาห์จะต้องมาเพื่อปลดปล่อยด้านการเมืองและการปกครอง  ดังนั้น เขาจึงเกิดคำถามในใจว่า 

ท่านเป็นคนที่จะมานั้น หรือว่าเราต้องรอคอยคนอื่น?”

คำถามนี้เป็นคำถามที่เยี่ยมและเหมาะสมในช่วงเวลาของการเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสต์สู่ชีวิตของเรา   เป็นช่วงเวลาที่เรารอคอยด้วยการคาดหวัง   แต่เป็นช่วงเวลาที่เราควรสงบชื่นชมยินดีแต่กลับถูกครอบงำบดบังด้วยความว้าวุ่นไร้ความสงบในจิตใจ   จิตใจที่ถูกครอบงำและคลุมด้วยความมืด  สลัว และเศร้าหมอง  

เรากำลังรอคอยคาดหวังบางสิ่ง บางคน บางเหตุการณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่พระคริสต์กระทำหรือไม่?

เรารอคอยและคาดหวังในบางสิ่งบางคน และบางเหตุการณ์ที่เราจะมั่นใจ  พอใจ อิ่มใจมากกว่านี้ใช่ไหม?

เรากำลังรอคอยและคาดหวังว่า  ชีวิตเราน่าจะเป็นผู้มีชัยมากกว่านี้หรือเปล่า?

ในช่วงเวลาเตรียมการเข้ามาของพระคริสต์ในชีวิตของเรา   ให้เรากลับทบทวนและใคร่ครวญถึงคำตอบที่พระเยซูคริสต์ฝากลูกศิษย์ไปบอกยอห์นผู้ให้บัพติศมาที่ถูกขังในคุกว่า
...ไป​บอก​ยอห์น​ใน​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ได้​ยิน​และ​ได้​เห็นคือ​ว่า...
บรรดาคน​ตา​บอด​เห็น​ได้ พวก​คน​ง่อย​เดิน​ได้
บรรดา​คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​หาย​สะอาด
บรรดา​คน​หู​หนวก​ได้​ยิน
บรรดา​คน​ตาย​เป็น​ขึ้น และ​คน​ยาก​จน​ทั้ง​หลาย​ได้​รับ​ข่าว​ดี    
ใคร​ไม่​มี​เหตุ​สะ​ดุด​ใน​ตัว​เรา คน​นั้น​ก็​เป็น​สุข”  (มัทธิว 11:4-6)

คำตอบของพระคริสต์กระตุกจิตสำนึกของผมในช่วงเวลาเตรียมรับเสด็จนี้ว่า

พระเมสสิยาห์ที่เรารอคอยคาดฝันแตกต่างจาก พระเมสสิยาห์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า   เราต้องการพระเมสสิยาห์ตามกระแสโลกปัจจุบัน   เราต้องการพระเมสสิยาห์ที่สำแดงพลังอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมและการเมือง    ในขณะที่พระคริสต์สำแดงว่าพระเมสสิยาห์ตามพระประสงค์ของพระเจ้าคือ  ผู้ที่เอาใจใส่คนที่ถูกกระทำในลักษณะต่างๆ  คนที่ไม่สามารถจะมองเห็น   คนที่ไม่สามารถพูดออกมาได้   คนที่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปด้วยตนเอง   คนที่ถูกตีตรากล่าวร้ายจนอยู่ในสังคมชุมชนไม่ได้   คนที่มีชีวิตแต่เป็นชีวิตที่ “ตาย” จากศักดิ์ศรีและพระฉายาของพระเจ้า   ข่าวดีของพระคริสต์ประกาศแก่คนเหล่านี้ที่ถูกฉกฉวยและทำลายโอกาสที่พระเจ้าประทานให้   คนยากคนจน   แท้จริงแล้วข่าวดีของพระเยซูคริสต์คือพระองค์ทรงใช้ชีวิตเคียงข้างคนยากคนจน คนเล็กน้อยและคนถูกกระทำ

ถ้าพระคริสต์เข้ามาในชีวิตของเรา   และชีวิตของเราต้องเปลี่ยนไปเป็นเหมือนอย่างพระองค์เป็น พระองค์ทำ   ท่านคิดว่ายังจะต้อนรับพระองค์เข้าในชีวิตอยู่หรือไม่?

พระเมสสิยาห์ของเราเหมือน หรือ แตกต่าง หรือ เป็นพระเมสสิยาห์คนละองค์กับพระเยซูคริสต์?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

1 ความคิดเห็น:

  1. ทุกอย่างที่เราเหนื่อยล้า ท้อแท้หมดความหวังและกำลังใจสับสนและว้าวุ่น พระองค์ทรงเป็นเหมือนที่พวกเราเป็น แต่พระองค์จะทรงแตกต่างในขณะที่ทุกอย่างที่เป็นพระองค์ถูกทำลายลง จนพระองค์อาจจะเหลือแค่เป็นธุลี แต่พระองค์จะสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยพระจิตที่เข้มแข็งและพระองค์จะชนะในสิ่งทั้งปวง

    ตอบลบ