อ่าน
อิสยาห์ 35:1-10
แล้วตาของคนตาบอดจะได้เห็นและหูของคนหูหนวกจะได้ยิน
คนง่อยจะกระโดดอย่างกวางและลิ้นของคนใบ้จะโห่ร้องยินดี
เพราะน้ำจะพลุ่งขึ้นมาในถิ่นทุรกันดาร และลำธารเกิดขึ้นในที่ราบแห้งแล้ง
(อิสยาห์ 35:5-6 มตฐ.)
อิสยาห์บทที่ 34 เป็นการบรรยายถึงการพิพากษาจากพระเจ้า แต่พอมาอ่านในบทถัดมาคือบทที่ 35 บรรยากาศและอารมณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ในบทถัดมานี้กล่าวถึงนิมิตหมายของการทรงพลิกฟื้นคืนชีวิตใหม่ที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่ออิสราเอล
และการทรงเยียวยารักษาเป็นส่วนหนึ่งในพระราชกิจแห่งการพลิกฟื้นสร้างชีวิตใหม่จากพระเจ้า การเยียวยารักษานี้กล่าวถึง คนตาบอดจะได้รับการเบิกตาให้มองเห็น คนใบ้ คนพูดไม่ได้
สามารถเปิดปากพูดออกมาได้
คนง่อยเปลี้ยเสียขาสามารถเดินได้
คนหูหนวกไม่สามารถได้ยินจะได้ยิน
การทรงเยียวยารักษานี้จะครอบคลุมไปถึงธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสร้างจะได้รับพลิกฟื้นคืนชีวิตขึ้นใหม่เช่นกัน ในที่แห้งเล้งจะกลายเป็นแหล่งน้ำบนแผ่นดิน
นิมิตหมายแห่งความหวังที่อิสยาห์เปิดเผยนี้ทำให้เราเข้าใจถึงพระราชกิจที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำเมื่อมีชีวิตบนโลกนี้
การทรงเยียวยารักษาชีวิตของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของประชาชนมิใช่เพียงเพื่อสำแดงความรักเมตตาของพระองค์เท่านั้น แต่นี่ยังเป็นหมายสำคัญถึงการมาของแผ่นดินของพระเจ้าอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อยอห์น ผู้ให้บัพติศมาไม่มั่นใจว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์
หรือ พระเมสสิยาห์ที่ผู้คนรอคอยหรือไม่
หรือพระองค์เป็นใครกันแน่
ยอห์นได้ส่งสาวกของตนไปทูลถามพระเยซูในเรื่องนี้ พระองค์บอกสาวกของยอห์นผู้ให้บัพติศมากลับไปบอกแก่ยอห์นว่า
“ไปบอกยอห์นในสิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ยิน
คือว่าคนตาบอดเห็นได้ คนง่อยเดินได้ คนโรคเรื้อนหายสะอาด
คนหูหนวกได้ยิน คนตายเป็นขึ้นมา และพวกคนยากจนก็ได้รับฟังข่าวดี...”
(ลูกา 7:22)
เป็นการตอบแก่ยอห์นผู้ให้บัพติศมาว่า
พระเยซูเป็นผู้นั้นที่กระทำให้คำเผยพระวจนะแห่งความหวังของ อิสยาห์เป็นจริง
ในพระเยซูคริสต์
แผ่นดินของพระเจ้าได้มาถึงใกล้แล้ว
เริ่มมาถึงแล้ว
เพียงแต่ยังไม่สำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น พระราชกิจการเยียวยารักษาชีวิตของผู้คนในโลกปัจจุบันนี้ยังดำเนินต่อไปผ่านคนรับใช้ในที่ต่างๆของพระคริสต์ และชีวิตของเราในทุกวันนี้กำลังได้รับการเยียวยารักษา
และ พลิกฟื้นขึ้นใหม่จากพระคริสต์ และ
ผ่านทางผู้คนที่เป็นสาวกที่สัตย์ซื่อของพระองค์
ชีวิตของเราทุกวันนี้อยู่ในช่วงเวลาแห่งการเยียวยารักษาและการทรงพลิกฟื้นขึ้นใหม่ แม้จะยังไม่สำเร็จครบถ้วน แต่ความสำเร็จสมบูรณ์ดังกล่าวกำลังเพิ่มพูนขึ้นจนสำเร็จเสร็จครบในที่สุด ตามเวลาของพระองค์
ในช่วงเวลาแห่งการเตรียมพื้นที่ชีวิตเพื่อรับการเข้ามาของพระคริสต์ในชีวิตของเรา
เรายอมและเต็มใจเปิดพื้นที่ชีวิตของเราให้พระคริสต์เยียวยารักษาในส่วนไหนในชีวิตของเราบ้าง?
มีพื้นที่ชีวิตในส่วนใดบ้างที่เรายังซุกซ่อนจากการเยียวยารักษาของพระองค์?
ทำไมเราถึงปิดบังซ่อนเร้นพื้นที่ชีวิตส่วนนั้นจากพระองค์?
ในวันนี้เราประสงค์ให้พระคริสต์เข้ามาเยียวยารักษาในส่วนใดในชีวิตของเรามากที่สุด?
เพราะเหตุใด?
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ ขอบพระคุณพระองค์ทรงเมตตาเยียวยาในชีวิตของข้าพระองค์ที่ผ่านมา และถ้าข้าพระองค์แยกจากพระองค์แล้ว
ชีวิตของข้าพระองค์ไม่รู้ว่าจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร ขอบพระคุณพระองค์ที่เอาใจใส่ ทรงเมตตาเยียวยารักษามิเพียงความเจ็บป่วยด้านร่างกายเท่านั้น แต่ทรงเมตตาเยียวยารักษาทั้งด้านจิตใจ อารมณ์ความรู้สึก และจิตวิญญาณของข้าพระองค์ด้วย นอกจากนั้นแล้ว
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยแก้ไขและสร้างเสริมสัมพันธภาพที่ข้าพระองค์มีต่อพระองค์
และ ผู้คนรอบข้าง
ขอสรรเสริญพระองค์ที่ทรงเป็นผู้เยียวยารักษาและพลิกฟื้นชีวิตข้าพระองค์ขึ้นใหม่
ในวันนี้โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เป็นคนรับใช้ของพระองค์ที่จะนำการเยียวยารักษาและการพลิกฟื้นชีวิตใหม่ไปถึงผู้คนรอบข้างที่ข้าพระองค์สัมผัสสัมพันธ์ด้วย
ข้าพระองค์ไม่มีพลังความสามารถใดเลยที่จะทำพันธกิจแห่งการเยียวยารักษานี้ แต่ด้วยพระคุณ และ พระกำลังจากพระองค์ที่ทรงให้บังเกิดความชื่นชมยินดีในชีวิตของผู้คนได้
โปรดประทานความเชื่อที่เข้มแข็งมั่นคง
เมื่อข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อคนที่เจ็บป่วย เมื่อข้าพระองค์เอาใจใส่ผู้ที่กำลังได้รับบาดแผลในชีวิต
โปรดประทานชีวิตและจิตใจที่รักเมตตาแบบพระคริสต์เมื่อข้าพระองค์ยื่นชีวิตเข้าไปในชีวิตของผู้มีชีวิตที่ฉีกขาด
โปรดประทานความมั่นใจว่า
พันธกิจรับใช้ที่ข้าพระองค์กระทำในวันนี้เป็นพระราชกิจแห่งแผ่นดินของพระองค์ที่ข้าพระองค์เข้าไปมีส่วนร่วม ข้าพระองค์ขอรอคอยด้วยความมั่นใจถึงแผ่นดินของพระองค์ที่จะมาตั้งอยู่อย่างครบบริบูรณ์ในวันข้างหน้า อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น