มงกุฎ และ
ไม้ธารพระกรหรือคทา
ราชบัลลังก์และพระมหาราชวัง
อำนาจการปกครองและความมั่งคั่งร่ำรวย
คำพวกนี้เป็นคำใช้กับราชบัลลังก์ในยุคกลาง
ชื่อเสียงเกียรติยศ และ
พิธีรีตอง
ความโอ่อ่าสง่างามและลีลารูปแบบ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนและช่างภาพข่าวสังคม คำพวกนี้เราใช้กับเจ้านายที่ทันสมัย
รุ่งริ่งพะรุงพะรังและคนเลี้ยงแกะ คอกสัตว์และรางหญ้า ความถ่อมตนและการเป็นคนรับใช้
คำพวกนี้เราใช้ในเทศกาลเฉลิมฉลองการบังเกิดของกษัตริย์องค์ใหม่ในเทศกาลคริสต์มาส
พระเยซูคริสต์แห่งนาซาเร็ธมิได้มีชีวิตอยู่เพื่อรับการปรนนิบัติ แต่พระองค์เกิดมาเพื่อรับใช้คนอื่น พระองค์ประทานชีวิตของพระองค์เพื่อคนอื่น แบบอย่างชีวิตที่ธรรมดาเรียบง่ายของพระองค์ได้สื่อสารถึงสัจจะความจริงที่ลุ่มลึกกินใจที่ว่า
“ความเป็นผู้นำมิได้วัดกันที่ว่าคนๆ
นั้นก้าวหน้าไปแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าคนๆ นั้นช่วยให้คนอื่นมีชีวิตที่ก้าวหน้าแค่ไหนต่างหาก”
เราจะหนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นอย่างไร?
1)
เราเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นเมื่อเราให้คุณค่าแก่ผู้อื่นอย่างจริงใจ
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้นำในระดับไหนก็ตาม ผู้นำที่หนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นเป็นคนที่เชื่อวางใจในคนที่ตนเองนำ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะเชื่อวางใจในตัวผู้นำเสียอีก
เขาเป็นผู้นำที่รับใช้ลูกน้องมากกว่าการเป็นผู้นำที่รอรับการรับใช้บริการจากลูกน้อง
สาวกของพระเยซูคริสต์ติดตามพระองค์ก่อนพวกเขาจะเชื่อว่าพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์ ทำไมหรือ?
เพราะพระเยซูคริสต์ได้เห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของสาวกแต่ละคนก่อน
และเชื่อในความสามารถที่สาวกจะมีชีวิตที่มีพลังต่อคนอื่นๆ ได้
2)
เราเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นเมื่อเราทำตัวเองให้เป็นคุณค่าแก่คนอื่น
หลักฐานเอกสารในประวัติศาสตร์ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตและกิจการงานของพระเยซูมากสักเท่าใดนักในช่วงที่พระองค์เป็นวัยรุ่น
หรือ ช่วงอายุ 20 ปี
เพียงแต่บอกว่า “พระเยซูเจริญขึ้นในด้านสติปัญญาและด้านร่างกาย
เป็นที่ชอบต่อพระพักตร์พระเจ้าและต่อหน้าคนทั้งหลายด้วย” (ลูกา 2:52 มตฐ.)
การที่จะหนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่า คนๆ นั้นมีคุณค่าในตนเองในเรื่องนั้นๆ จึงจะหนุนเสริมและเพิ่มคุณค่าให้แก่คนอื่นได้ เราไม่สามารถหนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่คนอื่นได้ ถ้าตัวเราเองยังไม่มีคุณค่าประการดังกล่าว การเติบโตขึ้นและมีพลังในคุณค่าด้านนั้นๆ จะนำหน้าคนนั้นและมีอิทธิพลต่อชีวิตคนรอบข้าง
3)
เราเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นเมื่อรู้ถึง
และ ตอบสนองต่อความจำเป็นต้องการของผู้อื่น
ในฐานะผู้นำ
เป็นการอันตรายอย่างยิ่งที่ผู้นำจะสร้างความพอใจและให้คนอื่นนิยมตนเองด้วยสิ่งที่ผู้คน
“อยากได้ใคร่มี” (หรือที่เราเรียกว่า “ประชานิยม” ในปัจจุบัน) เราจำเป็นต้องออกห่างจากการทำตัวเพื่อหาคะแนนเสียงประชานิยม
แต่อย่างไรก็ตามเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องใส่ใจสิ่งที่เป็นความจำเป็นของผู้คน คือความจำเป็นที่แต่ละคนจะต้องได้รับการยอมรับ ได้รับเกียรติ
จำเป็นที่ชีวิตการทำงานของเขาจะได้ทำงานอย่างมีคุณค่าในชีวิต
จำเป็นที่ทุกชีวิตจะรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญและคุณค่า ในฐานะผู้นำเราต้องหนุนช่วยเขาได้พบกับความจำเป็นเหล่านี้ในชีวิต
“มีการทุ่มเถียงกันเกิดขึ้นท่ามกลางพวกสาวกว่าในพวกเขาใครยิ่งใหญ่ที่สุด
พระเยซูทรงหยั่งรู้ความคิดในใจของพวกเขา
จึงให้เด็กคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างๆ พระองค์ แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าใครยอมรับเด็กเล็กๆ
คนนี้ในนามของเรา คนนั้นก็ยอมรับเรา และใครที่ยอมรับเรา
คนนั้นก็ยอมรับพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา
เพราะคนที่เล็กน้อยที่สุดในพวกท่านคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” (ลูกา 9:46-48 มตฐ.)
จากพระธรรมตอนนี้ โปรดสังเกตว่าพระเยซูคริสต์ได้เห็นถึงความจำเป็นประการสำคัญที่ต้องแก้ไขของสาวกคือการผยองพองตัวอย่างโง่เขลา พระองค์เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยให้สาวกเข้าใจเรื่องการเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีอำนาจอย่างถูกต้อง พระองค์ทรงชี้แนะนำให้สาวกได้รู้และเข้าใจว่า ตนเองจะเป็นคนที่สำคัญยิ่งใหญ่ได้โดยการยอมรับคนที่ถูกมองข้ามและถูกทอดทิ้งละเลย และมีท่าทีชีวิตที่ถ่อมรับใช้คนอื่น พระธรรมข้อนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ มาร์ติน
ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King, Jr.)
ภายหลังท่านได้สรุปแก่นสารของพระธรรมตอนนี้ว่า
“ทุกคนสามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้ เพราะทุกคนสามารถรับใช้ผู้อื่นได้”
บทใคร่ครวญชวนคิด
การให้ชีวิต...เป็นการดำเนินชีวิตในระดับสูงสุด เมื่อเราใช้ชีวิตของเราเพื่อนคนรอบข้าง
เราสามารถบรรลุความสำเร็จที่เราไม่สามารถซื้อหามาด้วยเงิน หรือ
สร้างความพึงพอใจด้วยประชานิยม
- ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำในระดับใดก็ตาม ท่านได้หนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นในทีมงานของท่านอะไรบ้าง?
- การที่ท่านรับใช้คนอื่นรอบข้างได้เพิ่มเสริมคุณค่าในชีวิตของท่านอย่างไรบ้าง?
ในวันนี้
ท่านจะหนุนเสริมเพิ่มคุณค่าชีวิตแก่ใคร ในเรื่องอะไร?
ท่านจะทำอย่างไรที่จะเสริมคุณค่าชีวิตของคนๆ
นั้น?
“ถ้าใครยอมรับเด็กเล็กๆ คนนี้ในนามของเรา คนนั้นก็ยอมรับเรา
และใครที่ยอมรับเรา คนนั้นก็ยอมรับพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา
เพราะคนที่เล็กน้อยที่สุดในพวกท่านคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ขอพระเจ้าโปรดอวยพระพรท่านในการหนุนเสริมเพิ่มคุณค่าแก่ผู้อื่นในพระนามของพระคริสต์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น