07 สิงหาคม 2563

คุณลักษณะพระคุณพระเจ้าในชีวิตคริสตชน

ในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ สถานการณ์แวดล้อมสร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของเรา เราต่างเครียดไปตาม ๆ กัน  บ้างเครียดมาก บ้างเครียดน้อย แล้วแต่แต่ละคนว่ามี “ความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณ” มากน้อยแค่ไหน และเมื่อเครียดมากหรือเครียดติด ๆ กันยาวนาน ดูเหมือนความอดทนมันหดหายลดน้อยลงอย่างน่าห่วง

แต่ในฐานะคริสตชน พระเจ้าทรงเรียกเราแต่ละคนให้เป็นผู้ที่ “มีจิตใจที่เมตตากรุณาอย่างกว้างขวาง” (แทนที่จะเครียด หดหู่ อารมณ์เสีย) พระคริสต์ประสงค์ให้สาวกของพระองค์มีจิตใจที่เมตตากรุณาต่อผู้อื่น มิใช่เมื่อเขาคนนั้นเหมาะสมที่จะได้รับความเมตตาปราณีจากเราเท่านั้น แต่พระคริสต์ทรงเรียกให้เรามีจิตใจที่เมตตาปรานีแก่คนที่ไม่สมควรที่จะได้รับความรักเมตตาปรานีจากเราด้วย  

และนี่จึงมิใช่การที่มีจิตใจเมตตากรุณาเท่านั้น แต่เป็น “จิตใจที่เปี่ยมด้วยพระคุณพระเจ้า” และนี่คือพระคุณของพระเจ้าที่ประทานแก่เราแต่ละคน

“พระคุณพระเจ้า” ที่แท้จริงนั้นเป็นพระคุณที่ให้แม้คนรับที่ไม่สมควรที่จะได้รับพระคุณนั้น

พระเยซูคริสต์ทรงเรียก และ คาดหวังจากเราแต่ละคนให้มีชีวิตประจำวันที่มี “พระคุณพระเจ้า” ในการดำเนินชีวิต   และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ชีวิตของเราจะต้องเป็น “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า” ที่เป็นช่องทางนำพระคุณพระเจ้าเข้าไปยังชีวิตคนอื่นรอบข้างเราในแต่ละวัน และไม่ละเว้นคนที่ไม่สมควรจะได้รับด้วย นั่นเป็นเรื่องยากสำหรับเราหลายคนใช่ไหมครับ?

แทนที่จะมีชีวิตที่เป็น “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า” ที่พระคุณของพระเจ้าจะไหลไปสู่คนอื่น ๆ ผ่านชีวิตของเรา แต่ชีวิตของเรากลับเป็นเหมือนสระน้ำนิ่ง (ที่มีแต่ท่อรับน้ำเข้า แต่ไม่ได้มีท่อที่ไหลไปสู่ผู้อื่น นอกจากท่อน้ำเสียน้ำทิ้งเท่านั้น) เราล้มเหลวในการที่จะส่งต่อพระคุณพระเจ้าที่เราไม่สมควรจะได้รับไปยังคนอื่นรอบข้าง แต่กลับกอดยึดพระคุณนั้นไว้คนเดียวอย่างเหนียวแน่น คงไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เห็นแก่ตัว

พระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็น “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า”  ไม่ใช่สระน้ำนิ่ง” ที่มีท่อเปิดรับเอาพระคุณของพระเจ้าเข้ามาในชีวิตตนเท่านั้น แทนที่เรามุ่งที่จะรอรับพระคุณพระเจ้าตลอดเวลา เราควรจะตั้งใจและเต็มใจที่จะเป็นท่อแห่งพระคุณที่ให้พระคุณพระเจ้าไหลไปยังคนอื่น และนี่เป็นอีกการทรงเรียกหนึ่งในชีวิตคริสตชนแต่ละคน

แล้วทุกวันนี้ เราเป็น “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า” ที่ส่งต่อพระคุณเข้าไปในชีวิตคนอื่นรอบข้าง หรือ เป็นสระน้ำนิ่งที่เก็บกักพระคุณพระเจ้าไว้สำหรับตนเองเท่านั้น?

เราเป็นท่อแห่งพระคุณของพระเจ้า

เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตเราเป็นเหมือน “สระน้ำนิ่ง” มากกว่า “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า” ในเวลาเช่นนั้นให้เรากลับมาทบทวนไตร่ตรองสะท้อนคิดถึงชีวิตที่เราได้รับพระคุณของพระเจ้าทั้ง ๆ ที่เราไม่สมควรจะได้รับ และเมื่อเราได้หยั่งลึกลงถึงความจริงของพระคุณพระเจ้าเราจะได้ไม่เก็บกักพระคุณนั้นไว้จากคนอื่น

เรามิได้รับการทรงเรียกเพียงเพื่อให้มารับ “พระคุณพระเจ้า” แต่ทรงเรียกเราให้นำพระคุณพระเจ้าไปเป็นพระพรในชีวิตของคนอื่น ๆ ด้วย และเราจะมีประสบการณ์กับพระคุณของพระเจ้าอย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อเราตั้งใจและเต็มใจสำแดงพระคุณของพระเจ้าผ่านชีวิตประจำวันของเราไปยังคนอื่น ๆ รอบข้าง ยิ่งชีวิตคริสตชนของเรามีความเข้าใจในพระคุณลึกซึ้งเท่าใด เราก็ยิ่งเห็นความจำเป็นที่ชีวิตของเราต้องมีพระคุณและส่งต่อพระคุณนั้นไปยังชีวิตคนรอบข้าง

ทุกสิ่งที่เรามี ทุกสภาพที่เราเป็น ทุกอย่างในชีวิตของเราเราพึ่งในพระคุณของพระเจ้าที่ไหลลงมายังชีวิตของเรา   เมื่อสัจจะแห่งพระคุณซึมลึกเข้าในจิตใจ ความนึกคิดของเรา เราจะมีชีวิตที่สำนึกในพระคุณของพระองค์ และตอบสนองพระคุณดังกล่าวของพระเจ้าที่หลั่งไหลลงมาในชีวิตของเราด้วยพระทัยกว้างขวาง ด้วยการที่จะมีชีวิตที่เป็น “ท่อแห่งพระคุณพระเจ้า”

คุณลักษณะพระคุณพระเจ้าในชีวิตของเรา

บ่อยครั้งเราใช้คำว่า “พระคุณพระเจ้า” ที่มีความหมายความเข้าใจที่คลุมเครือ หรือ พูดให้เพราะว่าเป็นความหมายแบบนามธรรม แต่ถามหน่อยเถิดครับว่า เมื่อเรานำพระคุณพระเจ้าเข้าไปถึงชีวิตของคนอื่น นั้นเป็นอย่างไรกันแน่?   หรือ เราต้องทำอย่างไร? มีท่าทีและการกระทำแบบไหน? หรือเราจะแปลง “พระคุณพระเจ้า” ให้เป็นการปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างไร?

ให้เราดูจากพระวจนะของพระเจ้าว่า “เมื่อเรานำพระคุณพระเจ้าเข้าไปในชีวิตของคนอื่นสะท้อนให้เห็นการกระทำแบบไหนที่เป็นการนำพระคุณของพระเจ้าเข้าไปในชีวิตของคนอื่น?”

1. ไม่พยายามเรียกร้องสิ่งที่ถูกต้อง แต่แสวงหาที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง (เอเฟซัส 4:3)

2. เต็มใจที่จะมีชีวิตที่ทุกข์ยากลำบาก (ฟีลิปปี 5:2)

3. แสวงสวัสดิภาพ และ สิ่งดีดีเพื่อคนอื่น (ฟีลิปปี 2:3)

4. พูดแต่สิ่งที่เสริมสร้างกันและกัน มิใช่พูดสิ่งที่ทำร้ายทำลายกัน (เอเฟซัส 4:29)

5. อย่าพยายามเรียกร้องให้คนอื่นฟังตน แต่จงมุ่งมั่นตั้งใจในการฟังคนอื่น (สุภาษิต 18:2)

6. ใส่ใจในความต้องการจำเป็นของผู้อื่น แทนที่สนใจแต่สิ่งที่ตนเองต้องการ (ฟีลิปปี 2:4)

7. จงกระทำด้วยใจถ่อมสุภาพ มิใช่ด้วยอวดตัว และ หยิ่งผยอง (1โครินธ์ 13:4)

8. ไม่จดจำความผิดของผู้อื่น (1โครินธ์ 13:5)

9. แสวงหาทางที่จะช่วยและหนุนเสริมเพิ่มพลังแก่คนอื่น (โรม 12:10)

10. การให้อภัยโดยไม่คิดค่าราคาหรือสิ่งตอบแทน (เอเฟซัส 4:32)

11. หาทางที่จะเข้าใจคนอื่น เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข (โรม 12:18)

12. ไม่คิดที่จะแก้เผ็ดตอบโต้ (โรม 12:14)

13. มุ่งเน้นที่ความสำคัญของเป้าหมายเหนือสถานการณ์ล้อมรอบ (ฟีลิปปี 3:13-14)

14. สำแดงพระคุณโดยไม่แบ่งแยก ชนชั้น หน้าตา คนดี คนเลว (ฟีเลโมน 1:17)

15. ไม่มองข้ามความบาปผิด แต่มุ่งใส่ใจใสสิ่งที่บริสุทธิ์ (1โครินธ์ 13:6)

คุณลักษณะของพระคุณในชีวิตดูจะหนักหนาสาหัสไหม? โปรดตระหนักชัดว่า พระเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นในชีวิตแก่เรา ที่เราจะมีชีวิตดำเนินไปตามทางของพระองค์ (2เปโตร 1:3)  

ในช่วงเวลาใดก็ตามที่เราเกิดความรู้สึกว่ายากที่จะสำแดงพระคุณแก่ใครบางคน ให้เราทูลต่อพระเจ้าโปรดช่วยให้เราสามารถสำแดงพระคุณของพระองค์แก่คน ๆ นั้น และตระหนักชัดเสมอว่า เราได้รับพระคุณจากพระเจ้าทั้ง ๆ ที่เราไม่สมควรจะได้รับ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น