16 ตุลาคม 2563

เทศนาไปทำไม?...ฟังเทศน์เพื่อให้เกิดอะไร?

ท่านเชื่อไหมว่า การเทศนา และ การสอน อาจจะเสริมหนุนคริสตจักรให้เข้มแข็งเติบโตขึ้น หรือไม่ก็ทำให้แตกแยก  อ่อนแอหมดแรงไปก็ได้?

พระเจ้าทรงมีจุดประสงค์เฉพาะสำหรับการเทศนา และพระประสงค์ของพระองค์สำคัญกว่าจุดประสงค์อื่นใด และสำคัญกว่าจุดประสงค์ของเราเองในการเทศนา 

ในใจของมนุษย์มีแผนงานมากมาย แต่พระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะสำเร็จ” (สุภาษิต 19:21 อมธ.)

แล้วพระเจ้ามีพระประสงค์อะไรในการเทศนาของเรา? พระองค์มีพระประสงค์อะไรให้เราฟังเทศน์?

เราเทศนาไปทำไม? ... ฟังเทศน์ไปทำไม?

การเทศนาเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการชี้นำสมาชิกคริสตจักรที่ฟังเทศน์ คำเทศนาที่ทำอย่างมีเป้าหมายชัดเจนจะเสริมสร้างให้สมาชิกมีสุขภาพจิตใจ-จิตวิญญาณที่แข็งแรง เป็นการหนุนเสริมให้ชีวิตของสมาชิกมีชีวิตชีวาและมีพลัง และทำให้เกิดการเจริญเติบโตขึ้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า การเทศนาและฟังเทศนาเป็นวิธีการเดียวที่สมาชิกทั้งหมดหรือเกือบทุกคนที่มาคริสตจักรในวันอาทิตย์ได้ฟังเทศนาอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่น่าเสียดายและเสียใจที่หลายแห่งเป็นเพียงการพูดและการฟังเท่านั้น แต่ไม่ได้นำไปสู่การกระทำตามพระวจนะที่เทศนานั้น

2 โครินธ์ 3:18 กล่าวว่า “...เรากำลังรับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระองค์...ซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพระวิญญาณ” (อมธ.) เป้าหมายประการสำคัญสุดของการเทศนาก็เพื่อทำให้เราทุกคนมีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์ กล่าวคือ

[1] คิดเหมือนกับพระเยซูคริสต์ “...มีจิตใจ...เหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์” (ฟีลิปปี 2:5 มตฐ.)  

[2] มีบุคลิกภาพ ท่าทีชีวิต อารมณ์ความรู้สึกเหมือนพระเยซูคริสต์ “ให้สันติสุขของพระคริสต์ครองใจท่าน...” (โคโลสี 3:15 อมธ.) 

[3] มีการกระทำเหมือนกับพระเยซูคริสต์ “...ทำทุกสิ่งในพระนามขององค์พระเยซูเจ้า...” (โคโลสี 3:17 อมธ.)  

ดังนั้น เป้าหมายของการเทศนาคือการบ่มเพาะเพื่อเสริมสร้างให้ชีวิตของผู้ฟังเทศน์ทุกคนมีชีวิตที่เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์

แต่จงเป็นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น มิฉะนั้นจะเป็นการหลอกตัวเอง...แต่ผู้ที่พินิจพิจารณาธรรมบัญญัติอันสมบูรณ์แบบซึ่งเป็นธรรมบัญญัติแห่งเสรีภาพและตั้งมั่นในธรรมบัญญัตินั้น ไม่ได้เป็นผู้ที่ฟังแล้วก็ลืม แต่เป็นผู้ที่ประพฤติตาม ผู้นั้นจะได้รับความสุขในการประพฤติของตน” (ยากอบ 1:22, 25 มตฐ.)

เมื่อเราช่วยให้ผู้คนได้ “อ่าน” พระวจนะ และ “จดจำ” พระวจนะ แล้ว “กระทำตาม” พระวจนะ ชีวิตของคน ๆ นั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนี่คือฤทธานุภาพแห่งพระวจนะของพระเจ้า

แก่นหลักของปัญหาคือ ศิษยาภิบาลหลายท่านมักจะให้สมาชิกอ่านพระวจนะ หรือ ฟังพระวจนะ แต่ไม่ใส่ใจที่จะนำสมาชิกให้จดจำพระวจนะ และ กระทำตามพระวจนะ การกระทำดังกล่าวคือวิธีการหนึ่งที่ทำลายชีวิตสมาชิกโดยไม่ตั้งใจและคิดไม่ถึง

ถ้าผู้เทศน์เบลอในจุดประสงค์ของการเทศนา ผู้ฟังเทศน์ก็จะฟังเทศน์เพื่อรู้เรื่องราวในพระคัมภีร์ หรือมีจุดประสงค์เพื่อได้มีส่วนร่วมในการนมัสการ หรือไม่ก็คิดว่า ขอมีโอกาสอาทิตย์ละครั้งได้นั่งฟังเทศนาเพื่อพระเจ้าจะพอพระทัย? ส่วนที่จะรู้หรือไม่รู้เรื่อง จะเป็นประโยชน์อย่างไรหรือไม่ ไม่ได้ใส่ใจ? 

ท่านศิษยาภิบาลครับ ถ้าผู้ฟังพระวจนะฟังการเทศนาของท่าน แต่ไม่ได้กระทำตามพระวจนะที่ท่านเทศนานั้น ท่านอาจจะต้องกลับมาพิจารณาถึงเป้าหมายในการเทศนาของท่านใหม่ เพื่อท่านจะเทศนาตามเป้าหมายที่พระเจ้าประสงค์ และทูลขอพระองค์ช่วยท่านในการเตรียมคำเทศนา และ เสริมหนุนท่านในการเทศนาให้เกิดผลตามเป้าหมายของพระองค์ที่ทรงเรียกให้ท่านเทศนา

ตัวชี้วัด ประสิทธิภาพ และ การบรรลุเป้าหมายในการเทศนาของท่านคือ สมาชิกที่ฟังเทศน์แล้วกระทำตามพระวจนะในคำเทศนานั้นหรือไม่?

แล้วเราจะเตรียมเทศนาอย่างไร และ เทศนาอย่างไร ที่กระตุ้นหนุนเสริมให้สมาชิกกระทำตามพระวจนะในคำเทศนาในชีวิตประจำวันของเขา? (ซึ่งเราจะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป)

ตลอดสัปดาห์นี้ให้เราลองประเมินชี้วัดประสิทธิภาพ และ การบรรลุเป้าหมายในการเทศนาที่ผ่านมาของเรา ด้วยตัวชี้วัดที่ว่า คนที่ฟังเทศนาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีกี่คนที่ทำตามพระวจนะในคำเทศน์ของเรา? มีกี่คนที่ยังไม่ได้กระทำตามพระวจนะตามคำเทศน์ของเรา? อันไหนที่มากกว่ากัน? และอธิษฐานใคร่ครวญต่อพระพักตร์พระเจ้า   และแสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์ที่ทรงมอบหมายให้เราเทศนาพระวจนะของพระองค์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น