26 ตุลาคม 2563

...ความรู้สึก “คู่ขนาน” ของนักเทศน์

นักเทศน์ส่วนใหญ่รู้สึกตื่นเต้นที่จะเทศนา แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกหนักอกหนักใจด้วย นักเทศน์ใช้เวลามากมายในการอธิษฐานเพื่อเตรียมการเทศนา และยังขอให้คนอื่นอธิษฐานเผื่อการเตรียมเทศน์ และ การเทศน์ของตนด้วย

ในฐานะนักเทศน์ ท่านมีความรู้สึกอย่างที่กล่าวต่อไปนี้...หรือเปล่าครับ?

1. เรารักในการเทศนา แต่เราก็รู้อยู่เต็มอกว่า เป็นภาระที่หนักอึ้ง

เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้กล่าวถึง “ข่าวดีที่ดีที่สุด” สำหรับมนุษยชาติ แต่เรารู้สึกว่างานนี้เป็นภาระที่หนักหนาเอาการอยู่

2. เรายืนอยู่ในฐานะ “ผู้นำ” ที่พระเจ้าทรงเรียก แต่เราก็รู้ด้วยว่าเราจะต้องตอบสนองพระองค์ในฐานะ “คนรับใช้” ของพระองค์ 

สิ่งแรกเป็นความเชื่อที่ครอบคลุมความคิดของเราอย่างเต็มที่ ส่วนประการที่สองเป็นความเชื่อมั่นที่หยั่งรากลงลึกในชีวิตของเรา

3. เราตื่นเต้นที่ได้เห็นผู้คนยืนยันเห็นพ้องกับพระกิตติคุณ แต่เราก็รู้อยู่ว่าจะมีบางคนที่จะเดินจากไปโดยชีวิตไม่มีการเปลี่ยนแปลง  

แม้มีคนได้รับความรอด แต่ก็มีคนที่แข็งขืนไม่ยอมรับ เรานักเทศน์มักรู้สึกเสียใจอย่างมากสำหรับคนกลุ่มหลังนี้

4. เราศึกษาค้นคว้าอย่างหนัก (ผมเชื่อเช่นนั้น...) แต่เราก็รู้แน่แก่ใจว่าเราไม่สามารถที่จะสื่อสารเนื้อหาเรื่องราวที่เราต้องการสื่อสารได้ดีเต็มที่ดั่งตั้งใจ  

และจะมีนักเทศน์บางคนจมจ่อมอยู่กับจุดอ่อนในการเทศน์ของตน แทนที่จะยืนมั่นอยู่บนจุดแข็งในการเทศนาของตน

5. เรานักเทศน์ได้อธิษฐานเพื่อเนื้อหา และการเทศนาของตน แต่เราไม่เคยมั่นใจเลยว่าเราอธิษฐานเพียงพอ  

นักเทศน์มากมายที่ผมได้พบผ่านมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราควรใช้เวลาในการอธิษฐานมากกว่านี้ในการเตรียมเทศนา แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หรือ เป็นอย่างไรถ้าเราอธิษฐานมากกว่าที่เคยทำ

6. เรารู้สึกถ่อมตัวกับสิทธิพิเศษในการเทศนา แต่เราก็ต้องยอมรับว่าในส่วนลึกจิตใจของเราชอบให้คนฟังยอมรับในทักษะการเทศนาของเรา  

เรายอมรับว่าเรามีทั้งความรู้สึกที่เราต้องการให้พระเจ้าทรงใช้เราด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ และ ความรู้สึกต้องการให้ผู้คนรับรู้ว่าพระเจ้าทรงใช้เรามากแค่ไหน

7. เรารู้สึกปลื้มอกพอใจที่มีคนมานั่งฟังการเทศนาของเรา แต่บางครั้งเราก็ไม่มั่นใจว่าถ้าเราเทศน์ทางออนไลน์จะมีคนตั้งใจฟังเทศน์ของเรามากน้อยแค่ไหน  

ในส่วนลึกของเราหลายคนไม่ชอบที่ต้องเทศนาอยู่กับหน้ากล้องวีดีโอ เราต้องการให้คนกลับมาร่วมนมัสการที่โบสถ์อย่างพร้อมเพียงกันในการนมัสการพระเจ้าด้วยกันมากกว่า

8. เราต่างตั้งใจที่ต้องการสื่อสารพระกิตติคุณให้ดีที่สุด แต่ก็รู้ว่า การสนทนาในบางเรื่องกับผู้คนก่อนการเทศนาอาจจะรบกวนจิตใจ และ เป็นสิ่งรบกวนใจของเขาเมื่อฟังเทศนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราอยู่ในคริสตจักรที่อยู่ในภาวะที่ยากลำบาก  

การเทศนาเป็นทั้งความชื่นชมยินดี แต่เราก็รู้ว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เราพูดคุยกับบางคนก่อนการเทศนาก็ยังแฝงตัวและรบกวนความคิดจิตใจของผู้ฟังเทศน์เหล่านั้น และติดออกไปหลังการเทศนาจบอีกด้วย

ในฐานะนักเทศน์ ท่านมีความรู้สึกอะไรอีกครับ? และรับมืออย่างไรกับความรู้สึกเหล่านี้? ขอคำแนะนำด้วยครับ...

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499