เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของเรา เราแต่ละคนต่างมีเวลาที่จำกัด เรา “รีไซเคิล” นาฬิกาได้ แต่เรา “รีไซเคิล” เวลาไม่ได้! เราไม่สามารถสร้างเวลาเองให้เพิ่มขึ้น เวลาเป็นของประทานหนึ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่เราแต่ละคน
มีการประมาณการไว้ว่า คนเรามีอายุเฉลี่ย 72 ปี หรือ 26,000 วัน เราอาจจะคิดว่าเรายังมีเวลาเหลือเฟืออีกมากมาย แต่ถ้าท่านมีอายุมากกว่า 27 ปี ท่านได้ใช้วันเวลาไปประมาณเกือบ 10,000 วัน เราไม่สามารถที่จะย้อนเอาวันเวลาที่ผ่านไปเหล่านั้นกลับคืนมาได้ และนี่เองที่ทำให้วันเวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าราคามากอย่างยิ่ง
ท่านสามารถที่จะหาเงินมากขึ้นได้ ท่านสามารถหาเพิ่มพลังมากขึ้นตลอดเวลาได้ แต่เราไม่สามารถจะสร้างเวลาให้มีมากขึ้น เราสามารถสร้างนาฬิกาได้ล้านล้านเรือน แต่ไม่สามารถสร้างเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีได้
เรามีวันเวลาจำนวนหนึ่งในชีวิตของเรา และเมื่อเราใช้มัน มันก็ค่อย ๆ หมดไป หรือ ถ้าไม่ใช้มันก็จะเลยผ่านไป ดังนั้น การบริหารจัดการชีวิตจึงเป็นการบริหารจัดการเกี่ยวกับเวลา ถ้าเราเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการเวลา เราก็เรียนรู้ในการบริหารจัดการชีวิตของเรา
“[15] เพราะฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิต อย่าดำเนินชีวิตแบบคนไร้ปัญญา แต่จงดำเนินชีวิตแบบคนมีปัญญา [16] จงรู้จักใช้ทุกโอกาสเพราะเวลานี้เป็นยุคอันเลวร้าย” (เอเฟซัส 5:15-16 อมธ.)
คำตรงกันข้ามกับคำว่า “ระมัดระวัง” คือ “การประมาท” พระคัมภีร์บอกเราอย่าดำเนินชีวิตด้วยความประมาท (ไม่ใส่ใจ ไม่ใช้สติปัญญา) นั่นหมายความว่า เราจะใช้เวลาทุกวินาทีด้วยความตั้งใจ และ ด้วยการไตร่ตรอง หรืออาจจะเรียกว่า เป็นการดำเนินชีวิตไปอย่างมีเป้าหมาย
เราเคยลองบันทึกดูว่า วัน ๆ หนึ่งเราใช้เวลาอย่างไรไหม? เราใช้เวลาในการทำงานกี่ชั่วโมง? เราใช้เวลาในการโทรศัพท์กี่ชั่วโมง? ใช้เวลาหน้าจอโทรทัศน์ และ หน้าจอโทรศัพท์มือถือกี่ชั่วโมง? ใช้เวลากับคนในครอบครัวกี่ชั่วโมง? ใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้ากี่ชั่วโมง? มีเวลาสักเท่าใดที่ใช้ในการพักผ่อน? ใช้เวลาเท่าใดในการออกกำลังกายและเพื่อสุขภาพ?
การใช้เวลาในชีวิตของเรา เราได้ใช้เวลาด้วยความระมัดระวัง ไตร่ตรอง ใช้อย่างมีปัญญา เราใช้เวลากับสิ่งที่มีคุณค่า มีสาระสำคัญ และเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน หรือ เราใช้เวลาตามใจปรารถนา ตามความพออกพอใจของเรา
แต่ให้เราระลึกถึงคำกล่าวที่ว่า “เราทำทุกสิ่งได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ เราทำทุกสิ่งได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นทำให้เจริญขึ้น อย่าให้ใครเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่น ๆ” (1โครินธ์ 10:23-24 มตฐ.)
ไม่ใช่เป็นความผิดบาปหรอกที่จะมีใครบางคนใช้เวลาวันละ 5 ชั่วโมงเปิดดูภาพยนตร์ที่ตนชื่นชอบในยูทูป แต่นั่นเป็นการใช้เวลาอย่างดีมีคุณค่าที่สุดหรือ? ไม่น่าจะจำเป็นใช้เวลามากเช่นนั้นสำหรับกิจกรรมนั้น ๆ เพราะมันอาจจะไม่เป็นคุณค่าที่ดีที่สุดสำหรับท่าน และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือเราไม่ได้ใช่เวลาเพื่อสิ่งที่มีค่าและเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นด้วย
ให้เราใช้เวลาที่เป็นของประทานจากพระเจ้าด้วยความใส่ใจ ตั้งใจ ด้วยความระมัดระวัง ด้วยสติปัญญา และใช้อย่างเกิดผลและคุณค่าในชีวิตของตนเอง และ คนอื่นรอบข้างด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น