01 สิงหาคม 2553

พระเจ้าตอบคำอธิษฐานเพราะ...

อ่านสดุดี 143:1-12

1ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์
ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับคำวิงวอนของข้าพระองค์
ขอทรงตอบข้าพระองค์ตามความสัตย์สุจริตของพระองค์
(และ) ตามความชอบธรรมของพระองค์ (สดุดี 143:1)


ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ร้องวิงวอนขอพระเจ้าฟังคำอธิษฐานของตน
ชีวิตของเขากำลังถูกศัตรูไล่กวด
ถูกขยี้ลงถึงดิน
ชีวิตถูกกดดันให้อยู่ในความมืดมิด หาทางออกไม่ได้
เหมือนคนตายในหลุมฝังศพ
จิตใจของเขา...ตกอยู่ในสภาพอ่อนระอา และ ฝ่อ
ตกในสภาพที่กลัวลาน
จิตใจของเขา...กระหายหาพระเจ้า เหมือนแผ่นดินที่แห้งผาก

เขาอธิษฐาน ร้องทูล เขาวิงวอนต่อพระเจ้า
เขาขอพระเจ้า “ทรงสดับคำวิงวอนของเขา”
เขาขอพระเจ้า “เงี่ยหู” ฟังคำอธิษฐานของเขา
เขาขอพระเจ้า “ตอบ” คำวิงวอนของเขา

ถ้าเป็นเราที่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างผู้เขียนสดุดีบทนี้...
เราอาจจะอธิษฐานแบบทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับพระเจ้า เช่น
ขอพระองค์นำข้าพระองค์ออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้แล้ว...
ข้าพระองค์สัญญาว่าข้าพระองค์ถวายตัวรับใช้พระองค์
ข้าพระองค์จะเปลี่ยนแปลงและดำเนินชีวิตเป็นคนที่พระเจ้าต้องการ
หรือไม่ก็จะอ้างว่า....
ขอพระเจ้าโปรดระลึกถึงความสัตย์ซื่อที่ตนมีต่อพระเจ้าตลอดมา
ขอพระเจ้าเห็นแก่ตนในฐานะผู้รับใช้ที่ดีของพระองค์
ขอพระเจ้าทรงช่วยกู้เพราะเห็นแก่ชีวิตที่ทุ่มเทที่ผ่านมา
เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นถึงพระคุณและความรักของพระองค์

แต่...ผู้เขียนพระธรรมสดุดีบทนี้ ทูลต่อพระเจ้าแตกต่างจากข้างต้น...
เขาขอพระเจ้า
“เงี่ยหู”
“ฟัง” และ
“ตอบ” เขาในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน
มิใช่เพราะความดีความชอบที่ตนเคยทำต่อพระเจ้าในอดีต หรือ
ตั้งใจที่จะทำดีดทำชอบในสายตาของพระเจ้าในอนาคต

แต่...ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ขอพระเจ้าทรง เงี่ยหูฟังคำอธิษฐานของเขา
“ตามความสัตย์สุจริตของพระองค์”
“ตามความชอบธรรมของพระองค์”
มิใช่ตามความสัตย์ซื่อของตนเอง หรือ
ความตั้งใจที่จะทำดีของตนเอง หรือ
เพราะเรายื่นเงื่อนไขที่(น่าจะ)ดีต่อพระเจ้า
เพราะเราจะยอมเป็นคนดีในอนาคต ตามที่พระเจ้าต้องการ

ผู้เขียนสดุดีบทนี้ตระหนักชัดว่า...
การที่พระเจ้า “ทรงเงี่ยหูฟังคำอธิษฐานทูลขอ และ ทรงตอบคำอธิษฐาน” ของตน
เป็นเพราะพระคุณของพระเจ้า
เป็นเพราะพระเจ้าทรงสัตย์สุจริต
เป็นเพราะความชอบธรรมของพระองค์
เป็นเพราะพระองค์ทรงรัก เมตตา และต้องการทรงช่วยกอบกู้และสร้างสรรค์เรา

ผู้เขียนสดุดีบทนี้ยังเชื่อศรัทธาอีกว่า...
การที่พระเจ้า “ทรงตอบคำอธิษฐาน” ...
มิใช่เพื่อตอบสนองการทูลขอในความต้องการของตน(มนุษย์)
แต่เป็นพระราชกิจอันทรงพระคุณของพระองค์ที่ให้แก่ชีวิตของเรา
เป็นการเอาใจใส่ ดูแล ด้วยความรักเมตตาของพระเจ้า
เป็นพระราชกิจแห่งการกอบกู้ของพระเจ้า
เป็นพระราชกิจของพระเจ้า ที่ทรงนำและสร้างเราให้เติบโตขึ้น
เป็นการ “ทรงสอนถึงทางที่ควรเดินไป”
เป็นการ “ทรงสอนให้ข้าพระองค์ทำตามพระทัยของพระองค์”
เป็นการ “ทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีราบ”
เป็นการ “ทรงนำข้าพระองค์ออกจากความทุกข์ยากลำบาก”
เป็นการ “ทรงสอนและทรงนำ” ด้วยความรักเมตตาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในวันนี้....
ไม่ว่าชีวิตของเราจะมีความมั่นคงในพระเจ้า หรือ
ชีวิตกำลังล้มสะดุดลง
แม้ว่าจิตสำนึกภายในของเราฟ้องถึงพฤติกรรมอดีตในชีวิตของเรา
จงร้องทูลวิงวอน อธิษฐานต่อพระเจ้า
จงเชื่อมั่นและวางใจในพระเจ้า...
พระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของเรา เพราะ....
ความสัตย์สุจริตของพระองค์ และ
ความชอบธรรม และ
พระคุณความรักของพระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น