เมื่อความไว้วางใจในความสัมพันธ์ของเรากับทีมงานเกิดการหักงอ
หรือ ฉีกขาด ให้รีบซ่อมแซมพลิกฟื้นความไว้วางใจขึ้นใหม่ทันที มิเช่นนั้นความไว้วางใจที่ “ถลอก ฉีก หัก”
จะขึ้น “สนิม”
แล้วสนิมนั้นจะกัดกร่อนความไว้วางใจในความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกันให้ผุกร่อนและหักพังได้
ในฐานะที่เราเป็น “ผู้นำ” คนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้นำในระดับใดก็ตาม จะเป็นการพูดจา ท่าทางที่เราแสดงออก
หรือการกระทำของเราย่อมเป็นที่เพ่งเล็งในสายตาของทีมงาน
บางครั้งอาจจะเป็นคำพูดที่เราพูดออกไปแล้วไปทำร้ายทำลายความไว้วางใจที่เขามีต่อเรา บางครั้งก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ถูกกาละเทศะ กล่าวด้วยท่าทางน้ำเสียงที่ค่อนข้างแรงและแข็งกร้าวทั้งๆ
ควรพูดด้วยความเมตตาในบริบทนั้น
บางครั้งก็ละลืม เลยไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนสัญญาไว้ ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมิใช่เป็นการกระทำผิดอย่างโจ่งแจ้งตั้งใจ แต่ก็เป็นการสนองตอบที่ไม่ค่อยดีของเรา และนี่เป็น “ตัวกัดกร่อน” ที่ทำให้ความไว้วางใจใความสัมพันธ์ของเรากับทีมงานเสียหาย
แล้วจะ
“ซ่อมแซม” ความไว้วางใจในความสัมพันธ์อย่างไร?
ยอมรับ ความจริงว่า ความไว้วางใของเราแตกหัก
ถ้าใครมีรถยนต์คงต้องตรวจตราอยู่เสมอว่า มีส่วนใดของรถเกิดการถลอก บุบ
หรือฉีกขาดหรือไม่
ถ้ามีจะต้องซ่อมแซม มิเช่นนั้น
จะทำให้ขึ้นสนิม แล้วสนิมก็จะกัดกินทำให้เหล็กในบริเวณนั้นผุกร่อนแล้วลามเป็นพื้นที่กว้างต่อไป
นานเข้าจะส่งผลร้ายทำให้เกิดความเสียหายแก่โครงสร้างของรถนั้นได้ ถ้าเจ้าของรถละเลยมองข้ามไม่ใส่ใจสนิมที่เกิดขึ้น เมื่อมันลามใหญ่โตขึ้นก็ต้อง “จ่าย” ค่าซ่อมมากขึ้นด้วย เรามักมองว่า “ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร” เรามักลวงตนเองเช่นนี้
เฉกเช่นเดียวกันกับความไว้วางใจที่ฉีกขาดที่เรามักมองว่า ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร
เรื่องอย่างนี้ทิ้งไว้สักพักหนึ่งแล้วมันจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง เวลาจะช่วยเยียวยารักษา และนี่คือการลวงตนเองที่อันตราย ยิ่งกว่านั้น
ผู้นำบางคนเมื่อเกิดบาดแผลความไว้วางใจในความสัมพันธ์มักโทษคนอื่นสร้างความเจ็บปวดให้ทีมงานบางคนแทนที่จะลุกขึ้นยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น หรือไม่ก็ยุยงว่ามีบางคนที่อยู่เบื้องหลังในการทำลายความไว้วางใจในทีมงาน
เลิกใช้เทคนิคแย่ๆ แบบเก่าๆ เหล่านี้เถิดครับ เราต้องยอมรับความจริงว่า ความไว้วางใจกันตอนนี้เกิดบาดแผล เกิดความร้าวฉาน หรือ ถึงขนาดฉีกขาด
การยอมรับความจริงเช่นนี้ย่อมเป็นการเปิดประตูสู่การเยียวยารักษา
เลือก ที่จะให้อภัยพฤติกรรมของคนอื่น
เมื่อเรายอมรับถึงความแตกหักของความไว้วางใจในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เราต้องก้าวต่อไปเพื่อที่จะให้อภัยแก่กัน อย่างไรก็ตาม
ในกรณีที่คนอื่นเคยกระทำผิดต่อเรา
เราอาจจะรู้สึกว่าสาสมปล่อยให้เขาจมดิ่งต่อไป เรายังเก็บงำซ่อนเร้นความขุ่นเคืองบาดแผลไม่พอใจในอดีตไว้ในจิตใจของเรา ถ้าเช่นนี้ บาดแผลความไว้วางใจจะไม่สามารถเยียวยารักษาได้ การเยียวยาเริ่มต้นที่การรับรู้ว่าได้เกิดบาดแผลในความไว้วางใจ แล้วตามด้วยเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งผิดพลาดที่เขาเคยกระทำต่อเรา
การที่จะก้าวให้ข้ามขั้นตอนนี้อาจจะไม่ใช่ง่ายเลย บางคนจะรู้สึกเจ็บปวดด้วย
แต่การกระทำเช่นนี้จะเป็นการซ่อมแซมและเสริมเพิ่มความแข็งแกร่งในความไว้วางใจที่เราจะมีต่อกันในอนาคต
เลือก ที่จะขอโทษทันที
ถ้าเราเป็นฝ่ายที่กระทำให้ความไว้วางใจที่มีต่อกันต้องเสียหายฉีกขาด
เราต้องพร้อมที่จะเป็นผู้ขอโทษผู้ที่เราทำให้เกิดบาดแผลในความไว้วางใจทันที และในกรณีที่ทำให้เกิดความเสียหายในเชิงทรัพย์สินสิ่งของเราอาจจะต้องหาทางที่จะชดใช้ในความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น การขอโทษคงมิใช่เพียงการกล่าวคำว่า “ขอโทษ”
หรือ การขอโทษด้วยวาจาเท่านั้น
แต่ให้เราขอโทษด้วยการกระทำ
และด้วยจิตใจที่สำนึกผิด
เลือก ที่จะรักษาและซ่อมแซมสิ่งที่มีค่าที่สุด
ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครฉากหนึ่ง
เมื่อเราเป็นผู้ที่ทำให้ความไว้วางใจที่มีต่อกันเกิดฉีกขาดเสียหาย
เราต้องรีบยอมรับความผิดที่เราได้กระทำลงไปและแสดงความรับผิดชอบในส่วนที่เราเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหายทันที โปรดตระหนักชัดว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คนอื่นจะให้แก่เรานั้นมิใช่เรื่องเวลา แรงงาน
หรือความพยายาม
แต่สิ่งสำคัญและมีค่าที่สุดที่ท่านจะได้รับจากเพื่อนคือ ความไว้วางใจ
แต่คนไทยเราหลายคนมักเลือกที่จะรักษาหน้ามากกว่า โดยเฉพาะคนที่เป็นใหญ่เป็นโต
ดังนั้น
จงกระทำทุกหนทางที่จะรักษาไว้ หรือ
เรียกคืนความไว้วางใจให้กลับมามีดั่งเดิมให้ได้
ถ้าความไว้วางใจของเราเกิดการฉีกขาดเสียหายไปแล้ว ความเชื่อใจกันจะคงเหลืออยู่อีกหรือ? เราจะอยู่
จะคบกัน
และจะทำงานด้วยกันได้อย่างไร?
ในการที่เราต้องเลือกสิ่งที่เป็นเป้าหมายที่สำคัญและมีคุณค่าที่สุดของเราในเวลานั้น เราก็ต้องยอมรับว่าเราจะต้อง “ยอมสละ” บางสิ่งก่อนในเวลานั้น
เพื่อแลกกับการรักษาสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุดไว้
และให้อิทธิพลของสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุดเยียวยารักษาเพื่อกู้คืนบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่าที่เรา
“ยอมสละ” ในเวลาต่อมา
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น