พรสวรรค์หรือตะลันต์เป็นศักยภาพที่มีเฉพาะในแต่ละบุคคล แต่การที่ใครมีตะลันต์หรือพรสวรรค์ไม่ได้รับรองว่าชีวิตของเขาคนนั้นจะประสบความสำเร็จ ประการสำคัญคือคนๆ นั้นได้มีการพัฒนาพรสวรรค์หรือตะลันต์ที่เขามีอยู่ให้เป็นความสามารถที่พร้อมใช้ในการทำสิ่งนั้นๆ
ในบริบทและเวลาที่เหมาะสมหรือไม่?
สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
คำถามแรกที่ต้องถามตนเองคือ เมื่อเวลาและโอกาสมาถึงเรามีความพร้อมที่จะใช้ความสามารถที่มาจากพรสวรรค์หรือตะลันต์นั้นหรือไม่?
ประการที่สอง
เราเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน
นักศิลปินในด้านต่างๆ ที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพตามตะลันต์ความสามารถที่ตนมีจนนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้างว่า ผู้คนรอบข้างหนุนเสริมเขาให้ใช้ตะลันต์ความสามารถของเขาอย่างเต็มกำลังหรือไม่
แต่ในเวลาเดียวกันคนรอบข้างที่หนุนเสริมเขาเพื่อหวัง
“ดูดกิน” “กอบโกย”
ผลประโยชน์จากธุรกิจบนตะลันต์ความสามารถของคนนั้นหรือเปล่า?
หรือต้องการส่งเสริมและสร้างเขาด้วยความเต็มใจเพื่อคนๆ นั้นและเพื่อสังคม? ถ้าเพื่อกอบโกยผลประโยชน์บนความสามารถของคนๆ นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
คนที่มีตะลันต์ความสามารถก็เป็นเพียง “เครื่องมือหากิน”
ของคนที่เข้ามาช่วยเขาเท่านั้น
ประการที่สาม
คนที่มีตะลันต์ความสามารถถึงแม้เขาจะมีความพร้อมในการใช้ตะลันต์ความสามารถอย่างเต็มที่
และประสบความสำเร็จในการดำเนินอาชีพตามตะลันต์ความสามารถ
แต่ถ้าเขาเป็นคนที่ไม่มีความพร้อมในความรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัว ไม่มีความพร้อมในการบริหารจัดการการดำเนินชีวิตของตนเอง ในการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต เขาคนนั้นอาจจะประสบความสำเร็จในการใช้ตะลันต์ความสามารถ
แต่กลับประสบความล้มเหลวในชีวิตภายหลังการใช้ตะลันต์ความสามารถในการประกอบอาชีพของเขา
ประการที่สี่
คนที่ประสบความสำเร็จในการใช้ตะลันต์ความสามารถในอาชีพการงาน แต่มีบุคลิกความสัมพันธ์ที่ติดลบกับผู้คน มี “ชีวิตภายใน” ที่อ่อนแอ มีความเห็นแก่ตัว ยโสโอหัง
ไม่สามารถบังคับตนเอง จนสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของตน
เช่น การใช้ยาเสพติด มีปัญหาเรื่องเพศ เข้ากับคนรอบข้างไม่ได้ สิ่งเหล่านี้นำสู่ความล้มเหลวในการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งที่เป็นความสำเร็จจากตะลันต์ความสามารถก็จะอับปางลง และนาวาชีวิตก็จะพลอยล่มจมไปด้วย
การประสบความสำเร็จในการใช้ตะลันต์ความสามารถไม่ได้ประกันว่าคนๆ นั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิต
แล้วคริสตชนว่าอย่างไร?
แล้วคริสตชนมองอย่างไรกับการใช้ตะลันต์ความสามารถที่มีเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล?
สำหรับคริสตชนแล้ว เรามีมุมมองและเชื่อว่า “ตะลันต์”
คือของประทานจากพระเจ้าที่ให้มาในชีวิตของแต่ละคนในลักษณะหลากหลายแตกต่าง ตะลันต์ในแต่ละตัวคนรอเวลาที่จะได้รับการพัฒนาเป็นความสามารถ เพื่อคนๆ นั้นจะใช้ความสามารถที่ได้รับนั้นอย่างเต็มที่และเกิดผลเมื่อโอกาสมาถึง
(ในเวลาของพระเจ้า)
มุมมองและความเชื่อที่สำคัญกว่านี้คือ เราใช้
“ของประทาน” หรือ ตะลันต์ความสามารถเพื่ออะไรกันแน่?
คริสตชนเชื่อว่า
ตะลันต์ความสามารถเป็นของประทานจากพระเจ้า
ที่พระองค์มีพระประสงค์ในการใช้ตะลันต์ความสามารถเหล่านั้นในชีวิตของเรา ดังนั้น
เป้าหมายสำคัญสุดของการใช้ตะลันต์ความสามารถมิใช่เพื่อตัวเราเอง มิใช่เพื่อผลประโยชน์และรายได้ เกียรติยศและชื่อเสียง คุณค่าและความโดดเด่นของเราเองเท่านั้น
แต่เราใช้ตะลันต์ความสามารถเพื่อตอบสนองพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของเรา
ประการแรก
เราใช้ตะลันต์ความสามารถในชีวิตของเราบนรากฐาน “พระมหาบัญชา” คือรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังความคิดของเรา
เราใช้ตะลันต์ความสามารถโดยมีพระเจ้าเป็นเอกเป็นใหญ่ในชีวิตของเรา ดังนั้น
การที่เราตัดสินใจจะใช้ตะลันต์ความสามารถอย่างไร
เพื่ออะไรนั้น เราจะพิจารณาว่า เราตัดสินใจและกระทำลงไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่?
ประการที่สอง
เราใช้ตะลันต์ความสามารถในชีวิตของเรา
โดยมีเป้าหมายรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราใช้ตะลันต์ความสามารถบนรากฐานความรักที่เสียสละแบบพระคริสต์เพื่อคนรอบข้าง ทั้งคนดีและคนชั่ว
ทั้งคนสนิทและคนที่ทำให้เราต้องเจ็บปวดในชีวิต ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระคริสต์ที่ให้คริสตชนแต่ละคนเป็น
“เกลือและแสงสว่าง” ของพระองค์ท่ามกลางสังคมโลกนี้ ในพื้นที่และบริบทที่เราดำเนินชีวิตอยู่
ประการที่สาม
เราใช้ตะลันต์ความสามารถในชีวิตของเรา
เพื่อตัวเราเอง
โดยมีเป้าหมายในการใช้ตะลันต์ความสามารถตอบสนองด้วยการมีพระเจ้าเป็นเอกเป็นต้นเป็นเจ้าของชีวิตของเรา และ ตอบสนองพระมหาบัญชาของพระคริสต์ ทั้งนี้เพื่อเป็นโอกาสและกระบวนการในการพัฒนาชีวิตคริสตชนของเราเองในชีวิตประจำวันให้เติบโต
เข้มแข็ง และเกิดผลตามพระประสงค์
ประการที่สี่
ดังนั้น ความสำเร็จทั้งในอาชีพหน้าที่การงาน กับ ความสำเร็จในชีวิตของคริสตชน จึงมิได้ใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จชีวิตคริสตชน แต่คริสตชนมองความสำเร็จของชีวิตที่เราได้ใช้ตะลันต์ความสามารถของเราตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่?
การใช้ตะลันต์ความสามารถของเราทำให้เป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา และเกิดผลจากการใช้ตะลันต์ความสามารถในแต่ละครั้งหรือไม่?
เมื่อเราใช้ตะลันต์ความสามารถแล้วหนุนเสริมพลังให้เรามีชีวิตที่เติบโต
เข้มแข็ง
และเกิดผลตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่?
ทุกวันนี้
ตะลันต์ความสามารถนำเราถึงความสำเร็จในชีวิตคริสตชนและการเป็นสาวกของพระคริสต์หรือเปล่า?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น