10 มีนาคม 2563

จะต้องปิดโบสถ์วันอาทิตย์ชั่วคราวหรือไม่?

รับมือวิกฤติการระบาดของไวรัส โคโลน่า 19   

ในด้านจิตวิญญาณในฐานะคริสตชน เรามิได้ดำเนินชีวิตภายใต้ความกลัวแต่เราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อศรัทธา   อย่าให้เราตกลงในกับดักของความวิตกกังวล

เพื่อเราจะมิได้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทรราชแห่งความกลัวและวิตกกังวล ดังนั้น เราต้องใส่ใจถึงสุขภาวะของผู้คนประชาชนในชุมชน ดังนั้น เราจะใช้ความรู้และความชำนาญในเรื่องนี้จากผู้รู้เพื่อเป็นการเตรียมการของเรา

เกี่ยวกับเรื่องควรมาร่วมนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรหรือไม่? คริสตจักรไทยจะต้องปิดตัวเองสักพักหนึ่งอย่างคริสตจักรในเกาหลีใต้หรือไม่? เรื่องนี้คงไม่มีแบบอย่างตายตัว แต่เราสามารถพิจารณาและให้ความคิดเห็นด้วยกันถึงแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม และ สอดคล้องกับบริบทคริสตจักรในชุมชนของเรา ในประเทศของเรา


  • เรื่องการรับประทานร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ (ถ้าเป็นไปได้ด้วยน้ำอุ่นถึงร้อน) ยังเป็นวิธีปฏิบัติที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ในการป้องกันได้ดี เชื้อไวรัสโคโลน่า 19 ไม่ทนต่อความร้อนที่สูงกว่า 27 องศาซี และ กรดเข้มข้นในกระเพาะอาหาร
  • มีกระดาษหรือผ้าปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วยไข้ และไม่ควรเข้าไปในที่ชุมชนคนมาก ในกรณีนี้รวมถึงการเข้าร่วมในคริสตจักร และควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ รักษา และคำแนะนำ
  • หากท่านมีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปในที่ที่มีคนมากในระยะเวลานี้
  • ในภาวะนี้การทักทายด้วยการยกมือไหว้แบบไทย ๆ ก็ย่อมปลอดภัยมากกว่าการทักทายด้วยการจับมือ หรือ การโอบกอด

ในประวัติศาสตร์คริสตจักรเราพบว่า เมื่อคริสตจักรต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติกาลแบบนี้ คริสตชนได้ใช้เวลาและโอกาสเช่นนี้ในการที่จะรักเมตตาและรับใช้ชุมชนรอบตัวและสังคมโลก ด้วยการมอบความหวัง ความรักเมตตา  และความช่วยเหลือแก่ผู้คนอื่นรอบข้าง

อย่าให้ความวิตกจริตครอบงำจิตสำนึกและความเชื่อศรัทธาของเราจนละเลยการเมตตาและรับใช้เพื่อนบ้าน
มัทธิว 5:13-16 “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ

“ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มตฐ.)

ไม่มีใครจะปิดคริสตจักรของพระเยซูคริสต์ได้ แม้จะเป็นการปิดชั่วคราวก็ตาม เพราะคริสตจักรมีชีวิตและติดอยู่ในชีวิตประจำวันของสาวกพระคริสต์ทุกคน ไปทุกหนแห่งไม่ว่าสาวกคนนั้นจะไปที่ไหนก็ตาม

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น