14 พฤษภาคม 2563

เราเรียนรู้อะไรบ้างจาก...อิสราเอลพเนจรไปในทะเลทราย 40 ปี?

ถอดบทเรียนรู้ของอิสราเอล 40 ปีในถิ่นทุรกันดาร

ถึงแม้ว่า เวลาของพระเจ้าจะไม่สอดคล้องกับผังเวลาที่เราคิดเราต้องการ แต่พระองค์ก็จะไม่ให้เราต้องเดินวนเวียนอยู่ในทะเลทรายตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น “ทะเลทราย” ที่เราต้องอดทนยืนหยัดอยู่ในขณะนี้ ถ้าเราคิดว่า “ทะเลทราย” คือชีวิตที่ทุกข์ลำบากในโลกนี้ พระองค์จะไม่จับเราให้อยู่ใน “ทะเลทราย” แห่งความทุกข์ยากลำบากตลอดไป

เราท่านคงไม่ชอบทางเบี่ยง หรือ เส้นทางที่ยากลำบากที่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง อย่างเช่น เราต้องขับรถไปบนเส้นทางที่กำลังซ่อมแซมครั้งใหญ่ ที่รถของเราต้องใช้เวลาคลานไปอย่างเชื่องช้าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง หรือ ชั่วโมงหนึ่ง บางคนอาจจะโพล่งออกมาเลยว่า “ทำไมมันต้องมาซ่อมอะไรกันตอนนี้วะ?” ทำไมต้องมาซ่อมในช่วงเวลาที่ฉันต้องเดินทางรีบเร่งให้ทันงาน?

ชนชาติอิสราเอลที่ต้องทนทุกข์ทรมานตกเป็นทาสแรงงานในอียิปต์เป็นเวลาหลายร้อยปี เมื่อพระเจ้าทรงปลดปล่อยพวกเขาออกจากการเป็นทาส โดยทรงเรียกโมเสสเป็นผู้นำในกาลนี้ ด้วยการอัศจรรย์ภัยพิบัติ 10 ประการที่เกิดขึ้นกับชนชาติอียิปต์ (อพยพ 7-11) แล้วนำพวกเขาเดินลงในทะเลที่น้ำทะเลแยกออกเป็นทางเดินสำหรับอิสราเอล (อพยพ 14) ชนอิสราเอลคงคิดในใจว่า พวกเขากำลังจะเข้าไปสู่แผ่นดินในฝัน แผ่นดินแห่งพระสัญญา ในเวลาอันสั้นข้างหน้าแน่

แต่ชนอิสราเอลต้องเจออุปสรรคตลอดเส้นทาง พวกเขาใช้เวลาในการเดินทางที่ยาวนาน พวกเขาเลยหันหน้าไปพึ่งพระอื่นเพื่อหวังว่ารูปเคารพเหล่านั้นจะนำพวกเขาให้ถึงแผ่นดินในฝันเร็วกว่าที่เป็นอยู่ (อพยพ 32)

เมื่อพวกเขามาถึงชายแดนที่จะเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญา เขาส่งคนสอดแนมเข้าไปสืบความเป็นไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญานั้น เมื่อคนสอดแนมพบว่าเมืองนี้มีป้อมปราการที่หนาแน่น ผู้คนในเมืองนี้กำยำล่ำใหญ่น่ากลัว คนสอดแนมเกือบทุกคนต่างเล่าถึงความน่ากลัว อันตราย และ ความเป็นไปไม่ได้ที่อิสราเอลจะเข้าไปยึดเมืองที่แข็งแรงเช่นนั้น พวกเขาห้ามปรามไม่ให้อิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินนั้น ยกเว้นคนสอดแนมสองคนคือ คาเลบ และ โยชูวา (กันดารวิถี 32)

เพราะความดื้อดึงและความไม่เชื่อฟังพระสัญญาของพระเจ้า เป็นเหตุให้การเดินทางเข้าแผ่นดินพระสัญญาต้องล่าช้าเสียเวลามากขึ้น พวกเขาต้องวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี ผู้คนที่อายุมากกว่า โยชูวา และ คาเลบ จะไม่ได้เข้าในแผ่นดินแห่งพระสัญญา เพราะพวกเขาขาดความเชื่อและไว้วางใจถึงการทรงประทานให้ของพระเจ้า

แล้วเราคริสตชนในปัจจุบัน เราจะเรียนรู้อะไรบ้างไหมถึงบทเรียนรู้ที่พวกอิสราเอลต้องพเนจรในความทุกข์ยากลำบากถึง 4 ทศวรรษ

มีบทเรียนรู้สำหรับคริสตชนในปัจจุบัน จาก 40 ปีแห่งความทุกข์ยาก 40 ปีแห่งพระราชกิจของพระเจ้าในชีวิตของชนชาติอิสราเอล

1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมสำหรับเรา ในวันที่ชีวิตมืดมน

เมื่อเขาต้องประสบกับความหิวโหย พวกอิสราเอลโหยหาถึงช่วงเวลาเป็นร้อยปีแม้ต้องทำงานหนักในอียิปต์ แต่ก็ยังมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ พวกอิสราเอลมองสภาพชีวิตที่เคยทุกข์ยากลำบากเป็นภาพที่อุดมสมบูรณ์เหมือนในสวรรค์ (กันดารวิถี 11:5 “เราคิดถึงปลาที่เราเคยกินโดยไม่ต้องซื้อในอียิปต์ อีกทั้งแตงกวา แตงโม กระเทียมจีน หอมใหญ่ หัวกระเทียม”)

พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นถึงความจำเป็นต้องการอาหารของชนชาติอิสราเอล พระองค์ทรงประทาน “มานา” อาหารจากเบื้องบน และ ประทานโปรตีน เป็นนกคุ้มให้เป็นอาหารจากฟ้าประจำทุกวันจนกว่าพวกอิสราเอลก้าวเข้าแผ่นดินแห่งพระสัญญา

สำหรับพระเจ้าแล้ว ในถิ่นทุรกันดารในทะเลทรายเป็นที่ที่อิสราเอลจะรับการฝึกหัดฝัดร่อนชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น มิใช่ที่ที่พวกเขาจะต้องอยู่ตลอดไป แต่จะมีเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาแม้เป็นเวลาอีกหลายสิบปีก็ตาม แต่พระองค์ทรงเตรียมพร้อมสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตของพวกอิสราเอลในแผ่นดินแห่งพระสัญญา

จากเหตุการณ์ข้างต้นนี้ เราได้เรียนรู้ว่า ในวิถีชีวิตที่เราต้องจาริกไป พระเจ้าทรงเผชิญหน้าสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมกับเรา อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราตกงาน ที่เรากำลังหางานใหม่ เพื่อที่จะมีรายได้เลี้ยงครอบครัว เป็นช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยนพันธกิจที่เรารับผิดชอบ ท่ามกลางความแห้งผากของชีวิตใน “ทะเลทราย” พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นต้องการในชีวิตประจำวันแก่เราจนกระทั่งเมื่อไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญา

พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งเราในเวลาที่เราต้องการพระองค์ที่สุด

2. ดูเหมือนว่า แผนการของพระเจ้าไม่ได้สอดคล้องตามแผนการของเรา

ชนชาติอิสราเอลคาดหวังว่า การเดินทางเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาจะเกิดขึ้นไปอย่างราบเรียบและรวดเร็ว พวกเขาไม่เข้าใจว่า การจาริกไปสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาต้องใช้เวลา ทั้งนี้อาจะเป็นเพราะพระเจ้าต้องการที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตในเรื่องต่าง ๆ ตลอดเส้นทางที่จาริกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องเรียนรู้ที่จะไว้วางใจในพระเจ้า และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ต่อสู้กับศัตรูแทนชนชาติอิสราเอล (อพยพ 17)

จากเหตุการณ์เหล่านี้เราเรียนรู้ว่า เวลาของพระเจ้ามักจะแตกต่างห่างไกลไปจากความคาดหวังของเรา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและผลที่ตามมาไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม แผนการของพระเจ้านั้นดีและเหมาะสมสุด เราจะต้องไว้วางใจในการจัดเตรียมของพระองค์ เราต้องพึ่งในการจัดเตรียมและการประทานจากพระองค์ เฉกเช่นชนอิสราเอลที่ต้องพึ่งพิงในสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมเพื่อพวกเขา

3. พระเจ้าไม่เก็บกักเราให้อยู่ในทะเลทรายตลอดกาล

เวลา 40 ปี ดูเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน พวกอิสราเอลวัยรุ่นต้องใช้เวลาจาริกไปในทะเลทรายถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาเมื่อพวกเขาอายุ 50 หรือ 60 ปี

ถึงแม้ว่า เวลาตามแผนการของพระเจ้านั้นไม่สอดคล้องกับความคิดความต้องการของเรา แต่พระองค์จะไม่เก็บกักเราไว้ในดินแดนทะเลทรายตลอดไป ใน “ทะเลทรายแห่งชีวิต” เป็นช่วงเวลาบนเส้นทางชีวิตที่เรารับการเปลี่ยนแปลง ฝัดร่อน เสริมสร้าง ที่เราจะเรียนรู้ เชื่อฟัง อดทนพระเจ้าของเรา

เราจะไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาตามที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ พระเจ้ามิได้ผิดสัญญา และพระองค์จะไม่เก็บกัก (Quarantine) เราให้อยู่ในทะเลทรายไปตลอดกาล ไม่ว่าการฝัดร่อนเสริมสร้างชีวิตของเราต้องใช้เวลา 4 ปีหรือ 40 ปีก็ตาม เราจะไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาแน่

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น