ถอดบทเรียนรู้ของอิสราเอล
40 ปีในถิ่นทุรกันดาร
ถึงแม้ว่า
เวลาของพระเจ้าจะไม่สอดคล้องกับผังเวลาที่เราคิดเราต้องการ แต่พระองค์ก็จะไม่ให้เราต้องเดินวนเวียนอยู่ในทะเลทรายตลอดกาล
ไม่ว่าจะเป็น “ทะเลทราย” ที่เราต้องอดทนยืนหยัดอยู่ในขณะนี้ ถ้าเราคิดว่า
“ทะเลทราย” คือชีวิตที่ทุกข์ลำบากในโลกนี้ พระองค์จะไม่จับเราให้อยู่ใน “ทะเลทราย”
แห่งความทุกข์ยากลำบากตลอดไป
เราท่านคงไม่ชอบทางเบี่ยง
หรือ เส้นทางที่ยากลำบากที่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง อย่างเช่น เราต้องขับรถไปบนเส้นทางที่กำลังซ่อมแซมครั้งใหญ่
ที่รถของเราต้องใช้เวลาคลานไปอย่างเชื่องช้าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง หรือ
ชั่วโมงหนึ่ง บางคนอาจจะโพล่งออกมาเลยว่า “ทำไมมันต้องมาซ่อมอะไรกันตอนนี้วะ?” ทำไมต้องมาซ่อมในช่วงเวลาที่ฉันต้องเดินทางรีบเร่งให้ทันงาน?
ชนชาติอิสราเอลที่ต้องทนทุกข์ทรมานตกเป็นทาสแรงงานในอียิปต์เป็นเวลาหลายร้อยปี
เมื่อพระเจ้าทรงปลดปล่อยพวกเขาออกจากการเป็นทาส โดยทรงเรียกโมเสสเป็นผู้นำในกาลนี้
ด้วยการอัศจรรย์ภัยพิบัติ 10 ประการที่เกิดขึ้นกับชนชาติอียิปต์ (อพยพ 7-11) แล้วนำพวกเขาเดินลงในทะเลที่น้ำทะเลแยกออกเป็นทางเดินสำหรับอิสราเอล
(อพยพ 14) ชนอิสราเอลคงคิดในใจว่า พวกเขากำลังจะเข้าไปสู่แผ่นดินในฝัน แผ่นดินแห่งพระสัญญา
ในเวลาอันสั้นข้างหน้าแน่
แต่ชนอิสราเอลต้องเจออุปสรรคตลอดเส้นทาง
พวกเขาใช้เวลาในการเดินทางที่ยาวนาน พวกเขาเลยหันหน้าไปพึ่งพระอื่นเพื่อหวังว่ารูปเคารพเหล่านั้นจะนำพวกเขาให้ถึงแผ่นดินในฝันเร็วกว่าที่เป็นอยู่
(อพยพ 32)
เมื่อพวกเขามาถึงชายแดนที่จะเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญา
เขาส่งคนสอดแนมเข้าไปสืบความเป็นไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญานั้น เมื่อคนสอดแนมพบว่าเมืองนี้มีป้อมปราการที่หนาแน่น
ผู้คนในเมืองนี้กำยำล่ำใหญ่น่ากลัว คนสอดแนมเกือบทุกคนต่างเล่าถึงความน่ากลัว
อันตราย และ ความเป็นไปไม่ได้ที่อิสราเอลจะเข้าไปยึดเมืองที่แข็งแรงเช่นนั้น
พวกเขาห้ามปรามไม่ให้อิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินนั้น ยกเว้นคนสอดแนมสองคนคือ คาเลบ
และ โยชูวา (กันดารวิถี 32)
เพราะความดื้อดึงและความไม่เชื่อฟังพระสัญญาของพระเจ้า
เป็นเหตุให้การเดินทางเข้าแผ่นดินพระสัญญาต้องล่าช้าเสียเวลามากขึ้น พวกเขาต้องวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง
40 ปี ผู้คนที่อายุมากกว่า โยชูวา และ คาเลบ จะไม่ได้เข้าในแผ่นดินแห่งพระสัญญา เพราะพวกเขาขาดความเชื่อและไว้วางใจถึงการทรงประทานให้ของพระเจ้า
แล้วเราคริสตชนในปัจจุบัน
เราจะเรียนรู้อะไรบ้างไหมถึงบทเรียนรู้ที่พวกอิสราเอลต้องพเนจรในความทุกข์ยากลำบากถึง
4 ทศวรรษ
มีบทเรียนรู้สำหรับคริสตชนในปัจจุบัน
จาก 40 ปีแห่งความทุกข์ยาก 40 ปีแห่งพระราชกิจของพระเจ้าในชีวิตของชนชาติอิสราเอล
1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมสำหรับเรา
ในวันที่ชีวิตมืดมน
เมื่อเขาต้องประสบกับความหิวโหย
พวกอิสราเอลโหยหาถึงช่วงเวลาเป็นร้อยปีแม้ต้องทำงานหนักในอียิปต์ แต่ก็ยังมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์
พวกอิสราเอลมองสภาพชีวิตที่เคยทุกข์ยากลำบากเป็นภาพที่อุดมสมบูรณ์เหมือนในสวรรค์
(กันดารวิถี 11:5 “เราคิดถึงปลาที่เราเคยกินโดยไม่ต้องซื้อในอียิปต์ อีกทั้งแตงกวา
แตงโม กระเทียมจีน หอมใหญ่ หัวกระเทียม”)
พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นถึงความจำเป็นต้องการอาหารของชนชาติอิสราเอล
พระองค์ทรงประทาน “มานา” อาหารจากเบื้องบน และ ประทานโปรตีน
เป็นนกคุ้มให้เป็นอาหารจากฟ้าประจำทุกวันจนกว่าพวกอิสราเอลก้าวเข้าแผ่นดินแห่งพระสัญญา
สำหรับพระเจ้าแล้ว ในถิ่นทุรกันดารในทะเลทรายเป็นที่ที่อิสราเอลจะรับการฝึกหัดฝัดร่อนชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
มิใช่ที่ที่พวกเขาจะต้องอยู่ตลอดไป แต่จะมีเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาแม้เป็นเวลาอีกหลายสิบปีก็ตาม
แต่พระองค์ทรงเตรียมพร้อมสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตของพวกอิสราเอลในแผ่นดินแห่งพระสัญญา
จากเหตุการณ์ข้างต้นนี้
เราได้เรียนรู้ว่า ในวิถีชีวิตที่เราต้องจาริกไป พระเจ้าทรงเผชิญหน้าสถานการณ์ต่าง
ๆ พร้อมกับเรา อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราตกงาน ที่เรากำลังหางานใหม่ เพื่อที่จะมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
เป็นช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยนพันธกิจที่เรารับผิดชอบ
ท่ามกลางความแห้งผากของชีวิตใน “ทะเลทราย”
พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นต้องการในชีวิตประจำวันแก่เราจนกระทั่งเมื่อไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญา
พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งเราในเวลาที่เราต้องการพระองค์ที่สุด
2. ดูเหมือนว่า
แผนการของพระเจ้าไม่ได้สอดคล้องตามแผนการของเรา
ชนชาติอิสราเอลคาดหวังว่า
การเดินทางเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาจะเกิดขึ้นไปอย่างราบเรียบและรวดเร็ว พวกเขาไม่เข้าใจว่า
การจาริกไปสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาต้องใช้เวลา ทั้งนี้อาจะเป็นเพราะพระเจ้าต้องการที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตในเรื่องต่าง
ๆ ตลอดเส้นทางที่จาริกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องเรียนรู้ที่จะไว้วางใจในพระเจ้า
และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ต่อสู้กับศัตรูแทนชนชาติอิสราเอล
(อพยพ 17)
จากเหตุการณ์เหล่านี้เราเรียนรู้ว่า
เวลาของพระเจ้ามักจะแตกต่างห่างไกลไปจากความคาดหวังของเรา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและผลที่ตามมาไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ
แต่อย่างไรก็ตาม แผนการของพระเจ้านั้นดีและเหมาะสมสุด เราจะต้องไว้วางใจในการจัดเตรียมของพระองค์
เราต้องพึ่งในการจัดเตรียมและการประทานจากพระองค์ เฉกเช่นชนอิสราเอลที่ต้องพึ่งพิงในสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมเพื่อพวกเขา
3. พระเจ้าไม่เก็บกักเราให้อยู่ในทะเลทรายตลอดกาล
เวลา 40 ปี
ดูเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน พวกอิสราเอลวัยรุ่นต้องใช้เวลาจาริกไปในทะเลทรายถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาเมื่อพวกเขาอายุ
50 หรือ 60 ปี
ถึงแม้ว่า
เวลาตามแผนการของพระเจ้านั้นไม่สอดคล้องกับความคิดความต้องการของเรา แต่พระองค์จะไม่เก็บกักเราไว้ในดินแดนทะเลทรายตลอดไป
ใน “ทะเลทรายแห่งชีวิต” เป็นช่วงเวลาบนเส้นทางชีวิตที่เรารับการเปลี่ยนแปลง
ฝัดร่อน เสริมสร้าง ที่เราจะเรียนรู้ เชื่อฟัง อดทนพระเจ้าของเรา
เราจะไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาตามที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
พระเจ้ามิได้ผิดสัญญา และพระองค์จะไม่เก็บกัก (Quarantine) เราให้อยู่ในทะเลทรายไปตลอดกาล ไม่ว่าการฝัดร่อนเสริมสร้างชีวิตของเราต้องใช้เวลา
4 ปีหรือ 40 ปีก็ตาม เราจะไปถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญาแน่
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น