จากภาวะวิกฤติโควิด 19
ที่ยาวนานเป็นเดือน ๆ เป็นโรคระบาดไปทั่วโลก รุนแรงอย่างมาก และสร้างผลกระทบต่อชีวิตและพันธกิจของคริสตจักรท้องถิ่น
ทั้งพันธกิจการอภิบาล ความสัมพันธ์ในคริสตจักร ความเชื่อศรัทธาของสมาชิกและผู้นำคริสตจักร
สุขภาพของทุกคน การเรียนการศึกษา การทำงานและประกอบอาชีพ ตลอดจนเศรษฐกิจ และแน่นอนครับ
กระทบต่อชีวิต ครอบครัว และการทำพันธกิจของศิษยาภิบาลอย่างเลี่ยงไม่ได้
ข้างล่างนี้เป็นประเด็นที่รวบรวมประมวลจากการสุ่มพูดคุยกันทางโทรศัพท์ถึงสิ่งที่ศิษยาภิบาลรู้สึกห่วงกังวลในพันธกิจอภิบาลที่ตนเองมีส่วนร่วมรับผิดชอบในคริสตจักร
1. ศิษยาภิบาลห่วงกังวลถึงสมาชิกที่อยู่ห่างไกลออกไป
ศิษยาภิบาลหลายท่านที่ห่วงกังวลในการเข้าถึงและอภิบาลจิตวิญญาณของสมาชิกโดยที่ไม่มีโอกาสพบกันหน้าต่อหน้า
หรือใกล้ชิดสัมพันธ์อย่างในอดีต และในบางคริสตจักรให้ข้อมูลว่า มีสมาชิกที่รับเชื่อใหม่บางคนเมื่อถูกการทดลองในวิกฤติโควิด
19 ตอนนี้แยกตัวห่างไกลจากคริสตจักรยังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้
เนื่องจากสมาชิกไม่มีโอกาสที่มาสามัคคีธรรมร่วมกันที่คริสตจักร ที่จะช่วยหนุนเสริมกันและกันในทุกอาทิตย์
และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่งเริ่มเกิดความสั่นคลอนไม่มั่นคงในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องสุขภาพ
เศรษฐกิจความอยู่รอดเรื่องปากท้อง
2. บางคน/ครอบครัวที่ศิษยาภิบาลไม่สามารถติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยี
ศิษยาภิบาลหลายท่านกล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจว่า
“ผมน่าจะเอาใจใส่ฝึกฝนการใช้เครื่องมือสื่อสารทันสมัยมากกว่านี้” บ้างบอกว่า
“เราอยู่ในชุมชนที่คิดว่าเราไม่จำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารสูงส่งมากมายถึงเพียงนี้
เราจึงไม่คิดที่จะเตรียมตัวในเรื่องนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นเราจึงไม่สามารถสอนและเทศน์ผ่านเครื่องมือสื่อสารทันสมัยอย่างที่หลายคริสตจักรเขากำลังทำกัน”
3. จะวางแผนรับมือกับการกลับมาใช้โบสถ์ใหม่อย่างไร?
“ตอนนี้เรากำลังรอว่า ทางสภาฯ
ทางภาค จะมีคู่มือว่าเราควรจะทำอย่างไรถ้าเราจะเปิดใช้โบสถ์อีกครั้งหนึ่ง พูดกันตรง
ๆ ทางภาครัฐเขามีคู่มือแนวทางสำหรับการเปิดร้านตัดผม/เสริมสวย ร้านอาหาร
และ ฯลฯ แต่ยังไม่มีคู่มือแนวทางสำหรับที่จะเปิดใช้คริสตจักรอีกครั้งหนึ่ง”
4. แล้วศิษยาภิบาลจะมีการติดต่อสื่อสารสัมพันธ์กับสมาชิกเป็นประจำอย่างไร?
มีศิษยาภิบาลท่านหนึ่งบอกเราว่า
ตอนนี้ท่านไม่สามารถติดต่อกับสมาชิกประมาณจำนวนครึ่งหนึ่งของสมาชิกในคริสตจักร
5. แล้วจะรับมือจัดการกับเรื่องการเงินของคริสตจักรในอนาคตอย่างไร?
ศิษยาภิบาลจากชานเมือง
และ ชนบท ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา เหรัญญิกคริสตจักรได้โทรมาปรึกษาศิษยาภิบาลว่า
เงินในบัญชีลดน้อยเหลือไม่มากเพราะการถวายลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง เขาเกรงว่า
ถ้ายังต้องอยู่ในสภาพนี้ในเดือนต่อ ๆ ไปจะกระทบต่อเงินเดือนของผู้รับใช้
6. ศิษยาภิบาลตกในสภาพที่ท้อแท้อ่อนแรง
เมื่อมีโอกาสพูดคุยส่วนตัวทางโทรศัพท์
หรือ ไลน์วีดีโอคอลล์ ได้ยินน้ำเสียงเห็นสีหน้าของศิษยาภิบาลบางท่านดูเครียด และ
ท้อแท้อ่อนแรง และศิษยาภิบาลท่านนั้นยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด 19 ไม่มีสักวันหนึ่งที่ท่านรู้สึกโล่งอกสบายใจ
บางท่านก็บอกว่า พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อในปอด
ในภาวะเช่นนี้คริสตจักรก็ไม่สามารถสนับสนุน พ่อแม่ต้องแยกตัวไปรักษา
7. สมาชิกส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงเครื่องมือสื่อสารทันสมัย
ศิษยาภิบาลให้ข้อมูลว่า
มีสมาชิกส่วนหนึ่งที่ไม่มีเครื่องมือสื่อสารทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกที่สูงอายุในพื้นที่ชนบทห่างไกล
และ ในชุมชนคริสตจักรพื้นที่สูง (พี่น้องชนเผ่า) และมีอีกส่วนหนึ่งขาดความสามารถในการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มประสิทธิภาพ
เพียงสามารถใช้ในการโทรศัพท์และรับโทรศัพท์เท่านั้น อีกส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้
8. ในคริสตจักรมีความเห็นไม่ลงรอยกัน
หรือ เกิดความขัดแย้งกัน
เมื่อพูดคุยกับผู้นำคริสตจักรทางโทรศัพท์
เนื่องจากเป็นการพูดคุยกันแบบเป็นการส่วนตัวแต่ละท่านได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างขัดแย้งกันในเรื่องที่ต้องตัดสินใจ
ซึ่งที่ผ่านมาศิษยาภิบาลไม่เคยได้ยินผู้นำท่านนั้นพูดตรง ๆ เช่นนี้มาก่อน
ศิษยาภิบาลอีกท่านหนึ่งบอกว่า
“กำลังหนักใจที่จะทำอย่างไรให้คริสตจักรไปด้วยกันแบบเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ท่ามกลางกำลังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป”
9. การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา
ศิษยาภิบาลตั้งข้อสังเกตว่า
“ผมเห็นว่าความกดดันต่าง ๆ มันแรงมากในช่วงเวลานี้ และผมเองก็ไม่มั่นใจว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่”
“ในช่วงวิกฤตินี้ ดูเหมือนว่าผมต้องทำงานโบสถ์อยู่เพียงคนเดียว
ผมเลยต้องให้ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ซึ่งโดยปกติจะมีหลายคนที่เข้ามาช่วยงานของคริสตจักร
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้ทำแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ เหนื่อยอกอ่อนใจครับ”
แล้วท่านและคริสตจักรของท่านล่ะ
ต้องผ่านพบเผชิญหน้ากับเรื่องราวประเด็นเหล่านี้ที่เหมือนและต่างกันมากน้อย
อย่างไร แค่ไหนครับ แบ่งปันกันเพื่อการเรียนรู้ก็ดีนะครับ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น