09 พฤษภาคม 2563

รู้ไหม... การวิตกกังวลคือการไม่ไว้วางใจพระเจ้า????

ใครบ้างในพวกท่านที่กังวลแล้วต่ออายุตัวเองให้ยืนยาวออกไปอีกสักชั่วโมงหนึ่งได้? (ลูกา 12:25 อมธ.)

ความวิตกกังวลบั่นทอนชีวิตของเรา

ใครบ้างที่สามารถเพิ่มชีวิตของตนสัก 2-3 นาทีด้วยการวิตกกังวล? ตรงกันข้าม จากการศึกษาพบว่า ความวิตกกังวลขโมยความชื่นชมยินดีของเรา อีกทั้งยังทำลายสุขภาพของเราด้วย ความวิตกกังวลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้ามาทำลายสุขภาพของเราได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมทั้งมะเร็งด้วย ด้วยเหตุนี้พระเยซูคริสต์ถึงถามว่า แล้วท่านจะวิตกกังวลไปทำไม? แล้วความวิตกกังวลสามารถเพิ่มสิ่งที่ท่านไม่มีได้หรือ?   แล้วความวิตกกังวลจะทำอะไรได้กับสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลง? ทำไมเราไม่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้?

เราวิตกกังวลเกี่ยวกับอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และชีวิตของเรา (ลูกา 12:22) แต่ชีวิตของเรามีค่ามากกว่าสิ่งเหล่านี้ (12:23) เราไม่เคยเห็นว่าอีกามันวิตกกังวลว่ามันจะกินอะไรในมื้อต่อไป โดยสัญชาติญาณนกไว้วางใจในการทรงเลี้ยงดูจากพระเจ้า แล้วเรามีค่ายิ่งกว่าอีกาในสายตาของพระเจ้า แล้วเราจะไม่ไว้วางใจในพระเจ้าเลยเชียวหรือ? (12:24)

อย่าวิตกกังวล

นี่เป็นพระบัญชาของพระคริสต์ที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้ เวลาใดก็ตามที่เราวิตกกังวลในชีวิต เรากำลังบอกพระเจ้าว่าเราไม่ไว้วางใจในพระองค์ และเราขัดพระบัญชาของพระองค์ด้วยการวิตกกังวล 

ถ้าลูกของเรามาหาเราแล้วแสดงออกถึงความวิตกกังวลว่า พรุ่งนี้เขาจะมีอาหารกินไหม จะมีเสื้อผ้าใส่ไหม เราผู้เป็นพ่อแม่บอกลูกว่า พ่อแม่จะรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ของลูก แต่ลูกก็ยังแสดงออกถึงความไม่แน่ใจถึงสิ่งที่จะกิน จะใช้พรุ่งนี้อีก ในฐานะพ่อแม่เราจะรู้สึกเช่นไร แสดงว่าลูกไม่ได้ไว้วางใจเราในความรับผิดชอบของเราในฐานะพ่อแม่ของเขาใช่ไหม?

พระเจ้าผู้ทรงสร้างสากลจักรวาลที่เราอาศัยนี้ พระองค์ย่อมมีแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นในชีวิตมนุษย์ เพราะแม้แต่ดอกไม้มันไม่ได้ลงแรง ปั่นด้าย แต่พระเจ้าประทานให้ดอกไม้มีความงามยิ่งกว่ากษัตริย์ที่ใส่ชุดสวยงามที่สุด แล้วเราไม่มีค่ายิ่งกว่าดอกไม้หรือ (12:27-28)

แน่นอนครับ ในสายพระเนตรของพระเจ้า มนุษย์เราย่อมมีค่ากว่าดอกไม้ครับ

จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า

ถ้าเราแสวงหาแผ่นดินของพระองค์ กษัตริย์แห่งอาณาจักรนี้ย่อมให้ความมั่นใจแก่เราว่า พระองค์ทรงมีทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องการพร้อมอยู่ใช่ไหม? พระองค์ทรงเตรียมสิ่งเหล่านี้อย่างพร้อมมูลเพื่อให้แก่เราด้วยความเต็มใจ (12:32) ในฐานะพ่อแม่ในโลกนี้เรายังเอาใจใส่การกินการอยู่ของลูก ๆ แล้วพระเจ้าพระบิดาผู้ทรงสร้างโลกและจักรวาลจะใส่ใจมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างดียิ่งกว่าพ่อแม่ในโลกมิใช่หรือ? (12:26) การที่เรามิได้ไว้วางใจในพระองค์ว่าพระองค์จะประทานสิ่งจำเป็นเหล่านี้แก่เราเป็นการที่เรา “หมิ่นประมาท” พระองค์หรือไม่?

พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย โปรดยกโทษลูก ในเวลาที่ลูกเกิดความสงสัยไม่มั่นใจในความสามารถของพระองค์ และ น้ำพระทัยดีเลิศในการที่เอาใจใส่ดูแลชีวิตของลูก โปรดช่วยหนุนเสริมให้ลูกให้มีความเชื่อศรัทธาในพระองค์ และ ไว้วางใจในพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ ทูลขอในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น