23 ธันวาคม 2563

นักปราชญ์หญิงคนที่สาม...จัดการอย่างไรกับชีวิตที่สิ้นหวัง

ที่ผ่านมา 2 ครั้ง เราได้ไตร่ตรองเจาะลึกในในเรื่องราวของ “นักปราชญ์หญิง” สองท่านแรก เอลีซาเบธ และ มารีย์ ในข้อเขียนนี้เราจะศึกษาเจาะลึกถึงนักปราชญ์หญิงคนที่สาม นางอันนา เมื่อชีวิตผันผวนตกลงในความสูญเสีย สิ้นหวัง โดดเดี่ยว เธอเลือกที่มุ่งมองไปที่การสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า และบอกแก่คนที่เธอพบเห็นเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

ในลูกาบทที่ 2 บอกเราว่า นางอันนาเป็นม่ายมาจนถึงอายุ 84 ปี เธอแต่งงานได้เพียง 5 ปีสามีของเธอก็เสียชีวิต นั่นหมายความว่า เธอเป็นม่ายตั้งแต่ตอนอายุวัยรุ่นก็ว่าได้ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิด หรือ เป็นแผนการในชีวิตของเธอแน่ ความสิ้นหวังทำให้เธอต้องจมลงในห้วงแห่งความขมขื่นในชีวิต แต่เรากลับเห็นภาพแตกต่างที่ตรงกันข้าม นายแพทย์ลูกาได้ให้ภาพชีวิตของเธออย่างชัดเจนว่า “...(นางอันนา) เป็นม่ายมาจนถึงอายุแปดสิบสี่ปี นางไม่เคยออกไปจากบริเวณพระวิหารเลย แต่อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน” (ลูกา 2:37 มตฐ.)

เมื่ออันนาได้สูญเสียสามีสุดที่รักของเธอ เธอไม่ได้ปล่อยให้ชีวิตและความรักของเธอเหี่ยวเฉาตายตามสามีไป แต่เธอกลับใส่ใจจดจ่อทุ่มเทความรักของเธอไปที่พระเจ้า เธอใช้เวลาชีวิตทั้งวันและคืนมุ่งมองไปที่การสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าแทนความสิ้นหวังในชีวิต

ในชีวิตของเราแต่ละคนไม่วันใดก็วันหนึ่งที่เราต้องเผชิญกับการสูญเสียคนที่เรารักที่ไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่กับเราต่อไปได้ ในสถานการณ์เช่นนั้นเราท่านจะทำอย่างไรกับความรักของท่านที่มีต่อคน ๆ นั้น? ถ้าท่านเป็นคนที่มีปัญญา ท่านจะมุ่งมองใส่ใจทั้งสิ้นไปที่การสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าที่จะปรับเปลี่ยนนำทางชีวิตไปบนเส้นทางชีวิตใหม่ตามพระประสงค์

ในสถานการณ์ที่อันนาต้องสูญเสียสามีสุดที่รัก ที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ให้เธอรัก เธอตัดสินใจเลือกที่จะมีชีวิตที่จะรักพระเจ้าที่สถิตอยู่ด้วย เธอใช้ชีวิตในพระวิหารของพระเจ้า ในที่สุดเธอได้พบกับพระเยซูคริสต์   ในเวลานั้นเองที่เริ่มประกาศถึงข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

เมื่อพระเยซูคริสต์มีอายุได้ 8 วัน มารีย์และโยเซฟได้นำทารกน้อยเยซูไปยังพระวิหาร ซึ่งอันนาอยู่ที่นั่น  พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า “ขณะนั้นนาง (อันนา) เข้ามาหาพวกเขาแล้วขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้บรรดาผู้ที่รอคอยการไถ่(ปลดปล่อย)กรุงเยรูซาเล็มฟัง” (ลูกา 2:38 อมธ.) 

จากเวลาที่เธอได้พบพระกุมารเยซู เธอเริ่มบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวพระกุมารนั้น (เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์) พระคัมภีร์ได้บอกไว้ว่า “...คนฉลาดนำผู้อื่นมาถึงชีวิต” (สุภาษิต 11:30 อมธ.) อันนาเป็นคนที่มีปัญญา ฉลาด เป็นปราชญ์ เพราะเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เธอมีอยู่บอกคนอื่นถึงข่าวดีของการมาบังเกิดในโลกนี้ของพระเยซูคริสต์

ในช่วงเวลาแห่งคริสต์มาสปีนี้ ท่านสามารถเลือกตัดสินใจอย่างนางอันนา ยิ่งในภาวะวิกฤติชีวิตอย่างในปีนี้ที่รุนแรงมาก ผู้คนต้องประสบกับความสิ้นหวัง จนมุม หาทางออกไม่ได้ ต้องการข่าวดีที่จะช่วยให้ชีวิตสามารถหลุดรอดออกจากกับดักพิษร้ายอย่างปีนี้ 

คริสต์มาสปีนี้ ใช้เป็นโอกาสในการตัดสินใจเลือกครั้งสำคัญ ที่เราจะปรับเปลี่ยนมุมมองชีวิตของเราใหม่  ให้ใส่ใจมุ่งมองและมีความรักของเราต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และ มุ่งหน้าใส่ใจในการบอกถึงข่าวดีของพระเยซูคริสต์แก่คนรอบข้างที่พบเห็นและสัมพันธ์

นักปราชญ์หญิงทั้งสามแตกต่างจากปราชญ์ทั้งสามที่มาจากทางตะวันออก นักปราชญ์หญิงทั้งสามไม่ได้เป็นโหราจารย์ ที่จะล่วงรู้ถึงความลึกลับของดวงดาวที่สัมพันธ์กับชีวิตผู้คน แต่นักปราชญ์หญิงทั้งสามเป็นสามัญชนคนธรรมดา ที่ล่วงรู้และเลือกตัดสินใจในชีวิตปัจจุบันที่เธอมีชีวิตอยู่อย่างชาญฉลาดด้วยเชื่อศรัทธาและมอบกายถวายทั้งชีวิตแด่พระเจ้าในชีวิตของเธอ ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น