มารีย์มองเห็นสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับพระเจ้าคือ
พระองค์คือผู้เปลี่ยนแปลงกระบวนเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ต้นเหตุของปัญหาและความเลวร้าย
ด้วยช่วงเวลาเพียง 3
ทศวรรษที่พระองค์ใช้ในการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอันสำคัญและทรงคุณค่าความหมายอย่างยิ่ง
[46] มารีย์จึงกล่าวว่า
“จิตใจของข้าพเจ้าสรรเสริญยกย่องพระเจ้า
[47] และจิตวิญญาณของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
[48] เพราะพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่
ฐานะอันต่ำต้อยของผู้รับใช้ของพระองค์
นับแต่นี้ไปคนทุกชั่วอายุจะเรียกข้าพเจ้าว่าผู้ได้รับพร
[49] เพราะว่าองค์ทรงฤทธิ์ได้ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อข้าพเจ้า
พระนามของพระองค์บริสุทธิ์
[50] พระเมตตาของพระองค์แผ่มาถึงบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์
ทุกชั่วอายุสืบไป
[51] พระองค์ทรงประกอบกิจอันยิ่งใหญ่ด้วยพระกรของพระองค์
พระองค์ทรงกระทำให้ผู้ที่ผยองอยู่ในส่วนลึกของความคิดกระจัดกระจายไป
[52] พระองค์ทรงปลดเจ้านายลงจากบัลลังก์
แต่ทรงยกผู้ต่ำต้อยขึ้น
[53] พระองค์ทรงให้ผู้หิวโหยอิ่มเอมด้วยสิ่งดี
แต่ทรงส่งคนมั่งมีไปมือเปล่า
[54] พระองค์ทรงช่วยอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์
ทรงไม่ลืมที่จะเมตตา
[55] ต่ออับราฮัมและวงศ์วานของเขาตลอดไป
ตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้กับบรรพบุรุษของเรา” (ลูกา 1:46-55 อมธ.)
แล้วพระเจ้ามีมุมมอง
และ กระทำเช่นไรในการเริ่มการเปลี่ยนแปลงกระบวนเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและสังคมโลก?
พระองค์เริ่มพระราชกิจการเปลี่ยนแปลงโลกโดยร่วมกับ “หญิงที่อ่อนน้อมถ่อมตนในชีวิต”
คนแรกคือ สตรีที่สูงวัยและเป็นหมัน (นางเอลีซาเบ็ธ) สตรีอีกคนหนึ่งเป็นหญิงสาวพรหมจารี
(มารีย์) และมารีย์ซาบซึ้งในท่าทีของพระเจ้าตามนิมิตที่เธอได้เห็น ที่ทรงสนพระทัย
รักและเมตตา ให้เกียรติและคุณค่าแก่สตรีในสังคมชุมชนที่ยังอยู่ในวัฒนธรรมที่เหยียดเพศ
ยิ่งกว่านั้น ท่าทีของพระเจ้าที่เลือกเคียงข้างคนต่ำต้อยด้อยค่า เธอซาบซึ้งลงถึงรากฐานทางจิตวิญญาณและกลั่นกรองจากก้นบึ้งแห่งจิตใจเป็นบทเพลงยกย่องสรรเสริญพระเจ้า
และนี่เป็นบทเพลงแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือคนในยุคนี้จะเรียกว่าบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าแห่งการปฏิรูป
หรือ การปฏิวัติก็ย่อมได้
มารีย์
และ เอลีซาเบ็ธ เป็นวีรสตรีที่นายแพทย์ลูกายกย่อง เขายกย่องความเชื่อศรัทธาของสตรีทั้งสองท่านนี้
ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกาต้องการบอกแก่ธีโอฟีลัส ผู้อ่านพระกิตติคุณที่เขารวบรวม ที่เป็นคนสูงศักดิ์ในยุคนั้น
ถึงมุมมอง และ ระบบคุณค่าที่แตกต่างจากวิธีคิดวิธีมองของคนในยุคและสังคมนั้น ผ่านบทเพลงที่พระเจ้าทรงพลิกคว่ำกระบวนเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มนุษย์โลก
ผ่านบทเพลงสรรเสริญที่แสดงให้เห็นถึงความต่ำต้อย และ
ความอ่อนน้อมถ่อมตนที่มีชีวิตชีวาของทั้งเอลีซาเบ็ธ และ มารีย์ ที่ร้องออกมาเป็นบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าที่ทรงพลิกคว่ำประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
เอลีซาเบ็ธ
กล่าวว่า “ทำไมฉันถึงได้รับความโปรดปรานเช่นนี้
คือมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของฉันมาหา?” (ลูกา 1:43) ส่วนมารีย์กล่าวว่า “เพราะพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ฐานะอันต่ำต้อยของผู้รับใช้ของพระองค์...”
(ลูกา 1:48)
คนที่จะร้องสรรเสริญพระเจ้าออกมาจากก้นบึ้งแห่งจิตใจได้อย่างเอลีซาเบ็ธ
และ มารีย์ได้ ต้องเป็นคนที่สำนึกถึงคุณค่าแห่งกำพืดอันยากต่ำของตนเอง
และซาบซึ้งอย่างล้นพ้นถึงพระเมตตาอาทรอันสูงส่งของพระเจ้าที่มีต่อตน และพร้อมเปิดชีวิตรับใช้และร่วมในพระราชกิจอันทรงคุณค่าของพระเจ้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่ตนก็ตาม
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเรายอมให้พระคริสต์มาบังเกิดในชีวิตของเราเท่านั้น
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น