ช่วงเวลาคริสต์มาส เรามักทักทายกันว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส” แต่ปีนี้ ผมไม่อยากทักทายด้วยประโยคดังกล่าวเลย เพราะนั่นไม่ใช่ความจริงในชีวิตของหลายต่อหลายคน เกิดความรู้สึกว่าเรากำลังใส่หน้ากากเข้าหากันหรือเปล่า? ถ้าเราทักเพื่อนของเราว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส” แล้วเพื่อนที่กำลังมีชีวิตระทมทุกข์ เขาจะตอบเราอย่างไร เพื่อรักษาความสุภาพเลยต้องสวมหน้ากากตอบว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาสเช่นเดียวกันครับ/ค่ะ”
หลายคนที่ปีนี้สูญเสียคนที่เป็นที่รัก
คนใกล้ชิดเจ็บป่วยมาก หลายคนตกงาน ถูกลดเงินเดือน บางคนเรียนจบแล้วยังหางานที่ไหนไม่ได้เลย
บางคนกลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้ หลายต่อหลายคนที่คริสต์มาสปีนี้ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอันเป็นที่รัก
ได้แต่จ้องหน้ากันทางโทรศัพท์มือถือ หรือ แทปเลต แล้วน้ำตาไหล! คนเหล่านี้ไม่ต้องการของขวัญอะไรทั้งนั้น
สิ่งที่เขาต้องการคือเขาต้องการได้พบและสัมผัสกับพระคริสต์ที่มาบังเกิดในปีนี้ เขาต้องการให้พระคริสต์มาบังเกิดในชีวิตของเขามิใช่ไปเกิดที่รางหญ้าบ้านเบธเลเฮม
“หญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย
เขาจะเรียกนามท่านว่า อิมมานูเอล” ซึ่งแปลว่า “พระเจ้าทรงอยู่กับเรา”” (มัทธิว
1:23 สมช.)
คนเหล่านี้ต้องการให้สัจจะความจริงของวันคริสต์มาสเกิดเป็นจริงที่เป็นรูปธรรมในชีวิตของเขาที่นี่เดี๋ยวนี้ เขาต้องการ “อิมมานูเอล” พระเจ้าอยู่ในชีวิตเขา
พระองค์อยู่เคียงข้างเขา พระองค์ชี้นำชีวิตประจำวันของเขา พระเจ้าเป็นพระกำลังและพระปัญญาในทุก
ๆ วันตั้งแต่นี้ต่อไป แล้วคริสตจักร และ คริสตชนในวันนี้จะนำของขวัญชิ้นนี้มอบให้แก่คนเหล่านี้ได้อย่างไร? คริสตชนจะนำสัจจะความจริงแห่งแก่นสารของคริสต์มาสคือ “พระเจ้าพร้อมที่จะอยู่กับท่าน
ในชีวิตของท่าน เป็นพระปัญญาและพระกำลังที่จะชี้นำชีวิตของท่าน” ได้อย่างไร?
ดังนั้นให้เรามุ่งมองหาโอกาสที่จะแบ่งปันความรักเมตตาแก่เพื่อนมนุษย์ที่เราพบปะสัมพันธ์ด้วย
ยิ่งในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่เป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับเราที่จะให้กำลังใจแก่คนเหล่านี้
แล้วใครบ้างล่ะที่จำเป็นต้องการที่จะรับการค้ำชูและหนุนนำในชีวิต ที่ท่านสามารถแบ่งปันความรักเมตตาของพระเจ้าเชิงปฏิบัติดังกล่าวแก่เขา?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น